สนช.ผ่านร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติด ถอดกัญชา กระท่อม จากบัญชียาเสพติดแล้ว
วันนี้ (25 ธ.ค. 61) ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ วาระ 2-3 จำนวน 28 มาตรา ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษที่มีนายสมชาย แสวงการ เป็นประธานพิจารณาเสร็จแล้ว
โดยสาระสำคัญของ ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ คือการพิจารณาปลดล็อกกัญชาและกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 เพื่อให้สามารถนำไปศึกษาวิจัย และเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสามารถนำไปใช้รักษาโรค ภายใต้การควบคุมและดูแลทางการแพทย์ได้
โดยการ ผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง และจำหน่าย ทางการแพทย์ ต้องเป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด และความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ โดยหากมีปริมาณการครองครองเกิน 10 กิโลกรัม ให้สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย
สำหรับหน่วยงาน ที่จะได้รับอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง หรือจำหน่าย ประกอบด้วย
1. หน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนวิชาด้านการแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ หรือหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามแก้ปัญหายาเสพติด หรือ สภากาชาดไทย
2.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้านตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
3.สถาบันอุดมศึกษาที่ศึกษาและวิจัยด้านการแพทย์
4. ผู้ประกอบอาชีพเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจชุมชน
5. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ
6.ผู้ป่วยที่เดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดติดตัว เพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะตัว
7. ผู้ขออนุญาตอื่น ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบ
พร้อมกำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้ความเห็นชอบการกำหนดโซนนิ่งในการปลูกกัญชา หรือ ผลิตทดสอบ เสพหรือครอบครองในปริมาณที่กำหนด รวมถึงมีอำนาจกำหนดให้ท้องที่ใดเป็นพื้นที่เสพกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ส่วนบทลงโทษนั้น หากครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมีปริมาณกัญชาไม่ถึง 10 กิโลกรับ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ครอบครองเกิน 10 กิโลกรัม จำคุก 1- 15 ปี ปรับ 100,000 -1,500,000 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ในร่างกฎหมายกำหนดให้เมื่อร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว 3 ปี ให้คณะกรมการควบคุมยาเสพติด ประเมินผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือครอบครองกัญชาทุกๆ 6 เดือน
ทั้งนี้หลังจากที่สมาชิกสนช.พิจารณาสาระสำคัญร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเสร็จครบทุกมาตราแล้ว ที่ประชุมสนช.ลงมติให้ควาเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษด้วยคะแนน166 ต่อ 0 งดออกเสียง 13 ให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป
นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ กล่าวขอบคุณสมาชิกสนช.ที่พิจารณาให้ความเห็นชอบ พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่จากสนช.และครม.มอบแก่ประชาชน เพื่อให้สามารถนำกัญชาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ หลังจากนี้จะเร่งพิจารณาออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.