ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ข่าวเด่น / ไฮไลท์ ย้อนกลับ
กรมควบคุมโรคเดินหน้าดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
14 ก.พ. 2562

กรมควบคุมโรค เปิดอาคารศูนย์พัทยารักษ์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  เดินหน้าต้นแบบงานบริการป้องกันควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เมืองพัทยา

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  เปิดอาคารศูนย์พัทยารักษ์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เดินหน้าดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์  รวมถึงโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีอย่างต่อเนื่อง  เผยผลการดำเนินงานในช่วงปี 2558–2560 มีสถานบริการที่ได้รับการบริการเชิงรุกมากถึง 1,101 แห่ง  เพื่อเป็นต้นแบบงานบริการป้องกันควบคุมโรค โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทย   
วันนี้ ( 14 กุมภาพันธ์ 2562 )  นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดอาคารศูนย์พัทยารักษ์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเปิดงานกิจกรรมรณรงค์วันวาเลนไทน์ “sex รอบคอบ ตอบ ok.” โดยมีภาคีเครือข่ายและเยาวชนเข้าร่วมงาน         

       ซึ่งศูนย์พัทยารักษ์เป็นสถานบริการที่รองรับผู้มารับบริการและให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จากสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของประเทศไทย ปี 2561 พบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคหลัก ได้แก่ โรคซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม กามโรคต่อมและท่อน้ำเหลือง และแผลริมอ่อน มีอัตราป่วย 30.4 ต่อประชากรแสนคน โดยกลุ่มอายุ 15-24 ปี (ช่วงวัยรุ่น) มีอัตราป่วยสูงที่สุด คือ 99.9 ต่อประชากรแสนคน ส่วนสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในเขตสุขภาพที่ 6 พบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคหลัก มีอัตราป่วย 55.93 ต่อประชากรแสนคน โดยกลุ่มอายุ 15-24 ปี (ช่วงวัยรุ่น) มีอัตราป่วยสูงที่สุดถึง 637.03 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งสูงกว่าสถานการณ์ภาพรวมของประเทศ แสดงถึงประชาชนยังขาดความรู้ ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ไม่ตระหนักถึงอันตรายของโรค และยังไม่เข้าถึงการป้องกัน รวมถึงการตรวจรักษาที่มีประสิทธิผล กรมควบคุมโรค กำหนดนโยบายยุติการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตามยุทธศาสตร์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 มุ่งยุติการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายที่สำคัญ คือ โรคซิฟิลิส และโรคหนองใน เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ  โดยมุ่งเน้นให้ยุทธศาสตร์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนกลวิธีและการดำเนินงานให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
          นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ศูนย์พัทยารักษ์  สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี เป็นสถานบริการสังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อดูแลผู้รับบริการในกลุ่มพนักงานบริการทั้งหญิงและชาย ประชากรข้ามเพศ แม่บ้าน เยาวชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งเน้นการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ รวมถึงโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี โดยผลการดำเนินงานของศูนย์พัทยารักษ์ พบว่าการทำงานเชิงรุกที่เข้าถึงประชาชน ทำให้มีผู้รับบริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากใน  ปี 2558–2560 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้รับบริการ 5,500 / 10,747 และ 12,134 ราย ตามลำดับ เมื่อปี 2558 มีสถานบริการได้รับการบริการเชิงรุก 1,059 แห่ง ส่วนในปี 2560 จำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 1,101 แห่ง จนทำให้ปี 2558 ได้รับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ ประเภทการพัฒนาการบริการที่เป็นเลิศ ระดับดีเด่น และปี 2561 ได้รับรางวัลเลิศรัฐสาขาการบริการภาครัฐ ประเภทพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่องและศูนย์พัทยารักษ์ยังมีการพัฒนาเพื่อยกระดับบริการ การพัฒนาคุณภาพงานบริการ งานวิจัยสู่นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้ศูนย์พัทยารักษ์เป็นต้นแบบงานบริการป้องกันควบคุมโรค โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในเมืองท่องเที่ยวของประเทศต่อไป
ด้านแพทย์หญิงหรรษา รักษาคม ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ และ ตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นประจำทุกปี กรมควบคุมโรคได้กำหนดให้มีการรณรงค์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ โดยศูนย์พัทยารักษ์ร่วมกับเครือข่ายจัดกิจกรรมรณรงค์ฯ เพื่อเป็นการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และรวมถึงการให้คำปรึกษาแก่ประชาชนทั่วไปเป็นประจำทุกปี สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายร่วมกิจกรรมรณรงค์ ประกอบด้วย เมืองพัทยา สำนักโรคเอดส์ฯโรงพยาบาลบางละมุง มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING)  มูลนิธิซิสเตอร์ เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ มูลนิธิธารชีวิตสตรีชลบุรี คณะอาจารย์ แกนนำเยาวชนจากโรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร และโรงเรียนบางละมุง 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...