ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
ทบ.มอบกองทัพภาคสนับสนุนการจัดตั้งสถานที่ควบคุมและสังเกตอาการของรัฐทั้ง กทม.และในทุกจังหวัด
10 เม.ย. 2563

กองทัพบกเดินหน้าสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในการจัดตั้งสถานที่เฝ้าระวังและสังเกตอาการของรัฐ (State Quarantine) ทั้งในส่วนกลางและในแต่ละจังหวัด รองรับการส่งผู้เดินทางเข้าประเทศและกลุ่มเสี่ยง โดยล่าสุด พลเอก ณัฐพล  นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบกมอบหมายให้แม่ทัพภาคในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคให้การสนับสนุนขับเคลื่อนการจัดตั้งสถานที่ควบคุมและสังเกตอาการของจังหวัด ซึ่งบูรณาการโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทุกพื้นที่มีความปลอดภัยและมีความมั่นใจในการเตรียมสถานที่เพื่อรองรับสถานการณ์ให้ดีที่สุด

สำหรับสถานที่เฝ้าระวังและสังเกตอาการของรัฐ (State Quarantine) ในพื้นที่ส่วนกลางรัฐบาลได้กำหนดไว้ 6 พื้นที่ ในส่วนของกองทัพบกได้รับมอบหมายให้ดำเนินการใน 3 พื้นที่ ได้แก่ สถานที่แรก โรงแรมเดอะภัทรา กทม. โดยได้นำคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศเข้าพักสังเกตุอาการ ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.63 จนถึงปัจจุบันซึ่งขณะนี้ (10 เม.ย.63) มีผู้เข้ารับการสังเกตอาการ จำนวน 226 คน พักอาศัยในลักษณะแยกเป็นรายบุคคล สอดคล้องกับสิทธิขั้นพื้นฐานและนโยบายของรัฐบาล  ซึ่งกองทัพบกใช้กลไก “ศูนย์บริหารสถานการณ์ Covid-19 กองทัพบก “ และ กรมแพทย์ทหารบก เข้าบริหารจัดการทั้งด้านการแพทย์และการดูแลสถานที่  จัดชุดคัดกรองและชุดปฐมพยาบาล จากกองพันเสนารักษ์ที่ 1 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ พร้อมทีมแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ดูแลสังเกตุอาการและตรวจรักษา หากมีผู้เข้าข่ายสงสัยติดเชื้อ จะส่งต่อไปที่ โรงพยาบาลสังกัดสาธารณสุขตามที่กำหนด  ทั้งนี้ กองพันทหารสารวัตรที่ 12 ได้เข้ารับภารกิจดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบด้วย 


สำหรับสถานที่ควบคุมและสังเกตุอาการของรัฐอีก 2 พื้นที่ คือ โรงแรมแอมบาสเดอร์ กทม.และ โรงแรมใน จ.ชลบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ โดยกองทัพบก มอบให้กองทัพภาคที่ 1 และกรมแพทย์ทหารบก ซึ่งสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและส่วนราชการ เข้าดำเนินการแล้ว ทั้งนี้โรงแรมใน จ.ชลบุรี จะสามารถรองรับผู้เข้าสังเกตอาการได้เป็นจำนวนมากกว่าทุกแห่ง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...