ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
บีทีเอส จับมือสจล. ศึกษาการใช้รถไฟฟ้าล้อยาง
11 ส.ค. 2563

นายกวิน  กาญจนพาสน์  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการร่วมลงนามในครั้งนี้ที่เป็นก้าวสำคัญที่บริษัทฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำระบบรถไฟฟ้าล้อยาง (Tram Bus) มาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย  เป็นการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะระบบรางขนาดรอง  เชื่อมต่อพื้นที่ภายในสถาบันการศึกษา กับระบบขนส่งมวลชนหลัก รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีลาดกระบัง เป็นการนำความรู้และประสบการณ์ทางระบบรางที่มีมามากกว่า 20 ปี  ผนวกกับความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ ระบบ E-Payment และ Non-Payment ผ่านบัตรแรบบิท ที่สามารถเชื่อมต่อกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ภายใต้ความร่วมมือนี้จะทำให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ เข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่จากประสบการณ์จริง นอกจากนี้ยังจะเป็นโอกาสอันดี ที่ทางบริษัทฯ จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชน และระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานด้านดิจิทัลอื่นๆ กับสจล. ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีองค์ความรู้ มีผลงานวิจัยมากมาย และยังสามารถนำมาใช้ในการศึกษาเพื่อนำไปสู่การเรียนการสอนในชั้นเรียนได้อีกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการร่วมมือ กับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด ซึ่งบริษัทฯทั้ง 2 แห่งนี้ที่เป็นเลิศทางด้านธุรกิจระบบขนส่งสาธารณะทางราง สื่อโฆษณา อสังหาริมทรัพย์  และผู้นำทางด้านเทคโนโนโลยี ด้านการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  โดยทั้ง 2 บริษัทฯ จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักศึกษาให้มีความสะดวกสบาย ทั้งด้านการเดินทาง การใช้ชีวิตประจำวันให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางสัญจรภายในบริเวณสถาบันฯ และเขตชุมชนใกล้เคียง ปัจจุบันเป็นปัญหาอย่างมากเนื่องจากมีทางรถไฟวิ่งผ่านกลางสถาบันฯ มีผู้โดยสารเดินทางมา ขึ้น – ลงจำนวนมาก ประชาชนนำรถยนต์ส่วนตัวออกมาขับขี่ แทนการใช้ระบบขนส่งมวลชน ทำให้ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า – เย็น เกิดปัญหาจราจรติดขัดเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดการสะสมมลพิษ ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมภายในสถาบันฯ สุขภาพของนักศึกษา และประชาชนทั่วไป อีกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าว บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาโดยการศึกษาเส้นทาง “ระบบรถรางไฟฟ้าล้อยาง” (Tram Bus) เพื่อใช้เป็นระบบขนส่งมวลชน หลักในการเดินทางของนักศึกษา และบุคคลากรภายในสถาบันฯ ในการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่มีอยู่ในปัจจุบัน และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว แก้ปัญหาจราจร พร้อมทั้งลดมลพิษ ภายในสถาบันฯให้เป็นไปตามนโยบายของทางภาครัฐ  และยังสามารถตอบโจทย์ให้กับนักศึกษาซึ่งเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ที่เน้นความรวดเร็ว และสะดวกสบายในการเดินทางเป็นหลัก

นายสุรพงษ์  เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสำหรับการศึกษารูปแบบ “ระบบรถรางไฟฟ้าล้อยาง” (Tram Bus) ในเบื้องต้นบริษัทฯได้ศึกษาเส้นทางที่มีความเป็นไปได้ไว้จำนวน 2 เส้นทาง เส้นทางที่1 รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จากสถานีลาดกระบัง  – หัวตะเข้ ระยะทาง 4 กิโลเมตร  ประกอบด้วย 3 สถานี ได้แก่  สถานีพระจอมเกล้า และสถานีหัวตะเข้  เส้นทางที่2 วิ่งรอบภายในพื้นที่ของสถาบัน  และเชื่อมต่อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์   สำหรับรถรางไฟฟ้าล้อยาง เป็นระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่ได้รับความนิยมใช้ตามเมืองหลวงต่าง ๆ ในต่างประเทศ มีลักษณะคล้ายรถโดยสารทั่วไปแต่จะทันสมัยกว่า และมีการพ่วงตู้โดยสาร โดยในรถ 1 ขบวนจะมี 3 ตู้  ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 250 คนต่อขบวน ใช้ความเร็วได้สูงสุด 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีมลพิษเนื่องจากใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ทั้งนี้ใน 2 เส้นทางจะต้องใช้รถรางไฟฟ้าล้อยาง จำนวน 4 ขบวน ในการให้บริการซึ่งคาดว่าจะเพียงพอรองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่ใช้บริการ ภายในสถาบันฯ และประชาชนทั่วไป  โดยรูปแบบการใช้บริการสามารถใช้บัตรแรบบิทในการเดินทาง และสามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนในปัจจุบันได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามโครงการนี้ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา และหากสามารถนำไปสู่การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปได้จะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปี โครงการนี้จึงจะเสร็จสมบูรณ์  และเป็นระบบรถรางไฟฟ้าล้อยางแห่งแรก ที่จะวิ่งในสถาบันการศึกษาของประเทศไทยและจะเป็นต้นแบบให้กับโครงการอื่น ๆ ที่จะมีต่อไปในอนาคตได้

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...