ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
มอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด”
21 ก.ย. 2563

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี 2562 ยกย่อง 15 จังหวัด ต้นแบบการจัดการขยะที่เป็นเลิศ ขอผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาขยะ อันเป็นวาระแห่งชาติให้สำเร็จ

21 กันยายน 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี 2562 โดยมีนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมในพิธี ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

สำหรับการจัดการประกวดและมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 ในปีนี้เป็นปีที่ 3 เพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและยกย่อง เชิดชูเกียรติ แก่จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลการจัดการขยะมูลฝอยดีเด่น โดยจังหวัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละกลุ่มจังหวัด จะได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล 1,000,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล 800,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล 500,000 บาท และรางวัลชมเชย ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ

ผลการคัดเลือกจังหวัดที่มีการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศ ประจำปี 2562 แบ่งเป็น 3 กลุ่มจังหวัด ดังนี้

1) ระดับกลุ่มจังหวัดขนาดใหญ่ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดลพบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ

2) ระดับกลุ่มจังหวัดขนาดกลาง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดเลย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดยโสธร รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก

3) ระดับกลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดลำพูน รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ รางวัลชมเชย ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอุทัยธานี สำหรับจังหวัดลำพูนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้ นับว่าเป็นการคว้ารางวัลชนะเลิศต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 3 แล้ว

พล.อ.ประวิตร ได้เยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการถอดบทเรียนความสำเร็จของจังหวัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้ง 3 กลุ่มจังหวัด หลังจากนั้นได้มอบรางวัลให้กับ 15 จังหวัด ต้นแบบการจัดการขยะมูลฝอยระดับประเทศ โอกาสเดียวกันนี้ ได้กล่าวแสดงความยินดีและมอบนโยบายด้านการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ (Agenda) ถือเป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกหน่วยงานที่ต้องบูรณาการร่วมมือกันตั้งแต่ครัวเรือนไปสู่ชุมชน จนถึงระดับประเทศ การบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน ไม่ใช่เป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาประชาคมโลก บ้านเมืองที่สะอาด เรียบร้อย สวยงาม นอกจากจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชนแล้ว ยังเป็นปัจจัยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ให้กับประเทศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ

“ขอชื่นชมกับความสำเร็จของจังหวัดที่ได้รับรางวัลในวันนี้ แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดถึงความจริงจังในการจัดการปัญหาขยะของทุกจังหวัด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำแนวทางการบริหารจัดการนี้ ไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในด้านอื่นๆ รณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ความตระหนักในการจัดการขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ สร้างบ้านเมืองที่สะอาด สวยงาม สร้างความเข้มแข็งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำบริการสาธารณะตามอำนาจหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าว

 

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...