ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ย้อนกลับ
ปลัดกทม. ย้ำหน่วยงานในสังกัดรับมือ PM2.5 พร้อมขอให้ประชาชนประชาชนสวมหน้ากากอนามัย
15 ม.ค. 2564

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนแนวโน้มของค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) จะสูงขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค. 64 เนื่องจากทั่วทุกภาคของประเทศมีสภาพอากาศปิด ความเร็วลมและการลอยตัวของอากาศต่ำ และหลังจากวันที่ 17 ม.ค. 64 เป็นต้นไป การลอยตัวของอากาศจะเพิ่มขึ้น มีลมแรงขึ้น ทำให้ฝุ่นละอองจะสามารถระบายได้ดี ส่งผลให้คุณภาพอากาศดีขึ้น โดยวานนี้ (14 ม.ค. 64) สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 ทั่วกรุงเทพฯ ได้ 45-76 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และในวันนี้ตรวจวัดได้ 62-108 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ กรุงเทพมหานครจึงเน้นย้ำให้หน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่อง อาทิ การตรวจวัดควันดำ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ การควบคุมไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดทางเท้าและถนน การฉีดล้างใบไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่จับฝุ่น การติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำดักจับฝุ่นละอองบนอาคารสูง การคุมเข้มมาตรการป้องกันฝุ่นบริเวณสถานที่ก่อสร้าง และการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์แนวทางการลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศและวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ เด็ก และผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเอง และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ที่คลินิกมลพิษทางอากาศทั้ง 3 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และโรงพยาบาลกลาง หรือขอคำปรึกษาและรับบริการรักษาเบื้องต้น ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ที่แอปพลิเคชัน Air BKK หรือเว็บไซต์ http://www.bangkokairquality.com

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...