ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
อปท.เชิญเป็นแขก ย้อนกลับ
ชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้อำนวยการ สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร
02 ส.ค. 2564

ในสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน แน่นอนว่าย่อมสร้างผลกระทบและสภาพคล่องทางการเงินแก่ประชาชน และเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็มีข่าวชิ้นหนึ่งเกิดขึ้นก็คือ “พิษโควิด! คนแห่เข้าโรงตึ๊ง” โดยเป็นการเปิดเผยของผู้อํานวยการสํานักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานครว่า ตัวเลขการจํานํา ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงม.ค.- มี.ค. มีมูลค่า 1,370 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะเดือน เม.ย.อยู่ ที่ 426 ล้านบาท โดยแนวโน้มการนําทรัพย์มาจํานำอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังจากที่เกิดการแพร่ระบาโควิดทําให้พ่อค้า- แม่ค้า ประชาชาชนทั่วไปที่ขาดสภาพคล่องนําทรัพย์มาวางไว้ที่โรงรับจํานํา เพื่อไปใช้จ่ายหรือการค้าขายเป็นจํานวนมาก

นอกจากนี้ได้ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจรายย่อย และประชาชนทั่วไปให้มีทางเลือกในการหาแหล่งเงินทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคประชาชนให้มีสภาพคล่องในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยคือ 1. เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาทคิด อัตราดอกเบี้ย 0.25 บาทต่อเดือน (โดยจํากัดวงเงินรับจํานําไว้ที่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อ 1 คน และต่อสถานธนานุบาล 1 แห่ง) 2. เงินต้น 5,001 - 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ย1บาทต่อเดือน 3. เงินต้นเกิน 15,000 บาท ดอกเบี้ย1.25 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง ก.ย.นี้ ซึ่งก็ต้องถือเป็นเยียวยาช่วยเหลือให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะโรงรับจำนำ ที่ถือว่าเป็นแหล่งทุนใกล้ตัวประชาชนมากที่สุดมาอย่างช้านาน

ดังนั้น อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ฉบับนี้ จึงจะขอนำท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับผู้อํานวยการสํานักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งก็คือ ชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้มีอุดมคติว่า“ถ้าอยู่ตรงไหนก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด”

ผอ.ชนาธิป ล.วีระพรรค หรือ “พี่ตุ๊”บอกกับเราว่าเป็นคนกรุงเทพฯ จบศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์บัณฑิต สาขาทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการเงิน

หลังจากเรียนจบมาก็ทำงานในสายการเงินมาตลอดกว่า31 ปี ทั้งทำงานภาครัฐและสถาบันการเงินของเอกชน เช่น ธนาคารนครหลวง ธนาคารธนชาติ ไต่เต้ามาเริ่มตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ทั่วไป จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการที่โรงรับจำนำ

“ผ่านมาทุกตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ผู้จัดการส่วน ผู้จัดการฝ่าย ผู้จัดการสาขา โดยที่ผมสนใจเรื่องของการเงิน เศรษฐกิจ มีความสนใจมาตั้งแต่วัยเด็กและพอได้เข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ ก็จะเข้าใจสภาพเศรษฐกิจ และมาเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จึงเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างดี

ผอ.ชนาธิป เล่าด้วยว่า ตัวเขาเกษียณก่อนกำหนดโดยพออายุ 55 ก็ยื่นขอเกษียณ แต่เมื่อเกษียณมาได้สักพักหนึ่ง โดยใช้ชีวิตอิสระที่ไม่มีเรื่องงานมาเกี่ยวข้องสักปีกว่า ก็รู้สึกว่า ตัวเองอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ก็เลยหันมาดูงานทางด้านภาครัฐบ้าง ประกอบกับพี่ตุ๊ได้ยึดแนวคิดว่า ถ้าอยู่ตรงไหนก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด และพยายามบอกคนรอบข้างว่า ให้คิดถึงองค์กร ให้คิดถึงส่วนรวมก่อน ซึ่งบางทีอาจจะไม่ได้ตรงใจกับเราเท่าไหร่ แต่ก็ให้คิดถึงส่วนรวมก่อนค่อยมาดูเรื่องของตัวเองเลยอยากลองเอาความรู้ความสามารถมาใช้กับองค์กรภาครัฐดู เอามาช่วยเขาพัฒนาสังคม บ้านเมือง

พี่ตุ๊ บอกว่า เมื่อเราเข้าใจและเข้าถึงปัญหาของบริบททางเศรษฐกิจได้มากขึ้น อาทิ ปัญหาต้นเหตุของหนี้ครัวเรือนนั้นมาจากเรื่องรายได้ที่ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เพราะด้วยสภาวะเศรษฐกิจ หรือปัญหาส่วนตัว ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย

โดยพี่ตุ๊แนะนำวิธีการควมคุมกำกับในเรื่องของรายได้และรายจ่ายให้สมดุลกัน โดยเราอาจจะต้องมาดูกันว่ารายรับในแต่ละเดือนเท่าไหร่ และเรามีภาระค่าใช้จ่ายอยู่เท่าไหร่ มันเพียงพอไหม อาจจะต้องทำบัญชีส่วนบุคคล เดือนหนึ่งมีรายรับทางไหนบ้าง รวมแล้วรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ ขณะที่ค่าใช้จ่ายต้องแบ่งว่าเป็นค่าใช้จ่ายประจำมีเท่าไหร่ หักแล้วเราเหลือเป็นเงินที่จะใช้ในยามฉุกเฉินหรือเงินออมมากน้อยแค่ไหน หรือมีแบบฟิตๆ คือมีรายได้เท่านี้ในขณะที่ค่าใช้จ่ายออกมาเกือบจะเท่ากับรายรับ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นหรือค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เราอาจจะต้องวางแผนในการใช้ ไม่งั้นจะเกิดหนี้สินขึ้นการทำบัญชีคือการวางแผนทางการเงินเหมือนบริษัท เขาจะหารายได้มาเท่านี้ ขณะที่มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และสุทธิแล้วเขากำไรหรือขาดทุน มันจำลองตัวตรงนี้มาใช้กับบุคคลได้ กับครัวเรือนได้

แน่นอนว่าด้วยสถานการณ์การเงินของประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะกดดัน ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับด้านนี้ ย่อมมีความเครียดติดตัวหลังจากเลิกงานอย่างแน่นอน แต่พี่ตุ๊นั้นบอกว่า ทุกอย่างไม่ได้ไร้ทางออกเสมอไป “คือวิธีการบริหารจัดการของผมคือพยายามหาว่าปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน และพยายามหาทางแก้ไขเพื่อให้มันผ่านตรงนั้นไปได้ ถ้าเราหาทางไม่ได้ เราก็ต้องไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีความรู้เพื่อช่วยกันระดมสมอง”

ขณะที่การเล่นกอล์ฟก็เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่พี่ตุ๊ชอบเป็นอย่างมาก เพราะกอล์ฟ เป็นกีฬาที่เหมือนแข่งกับตัวเอง คือไม่ว่าจะเก่งกว่าหรืออ่อนกว่า เล่นด้วยกันได้หมด จริง ๆ แล้วมันคือการแข่งกับตัวเอง การฝึกสมาธิ การวางแผนในการเล่น ในการตีแต่ละช็อตเราจะต้องวางแผนก่อนว่าจะตียังไง ไปตรงไหน มันคือฝึกการวางแผนและการใช้สมาธิ คือการตีกอล์ฟนี่ สมาธิต้องมาก่อน คือถ้าสมาธิวอกแวกหรือไปคิดเรื่องอื่นนี่ มันก็จะเละเทะ มันคือการทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น และได้สูดอากาศบริสุทธ์ด้วย มองต้นไม้เขียว

ซึ่งจะว่าไปแล้วการเล่นกอล์ฟก็เหมือนวางแผนการเงิน ที่เราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะบางอย่างที่เราไม่คาดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นจึงต้องมีการวางแผนการเงินให้ดีก่อนใช้เหมือนกับกอล์ฟที่ต้องมีการวางแผนตั้งแต่แรกๆ เลย ว่าที่เราตีออกไปมันจะไปตกตรงจุดไหน เวลาเราเล่นช็อตต่อไปมันจะได้เล่นง่ายขึ้น ไม่ใช่ว่าจับไม้มาก็หวดๆ พอดีก็เกินระยะเหล็กไป ตกน้ำตกท่า เข้าป่า เราก็ไปไม่รอดอยู่ดี

เพราะระหว่างทางก็จะมีอุปสรรคดักเราอยู่แล้ว ในสนามกอล์ฟนี่ ไม่เป็นแนวป่าก็จะเป็นบ่อทราบ ไม่เป็นบ่อทรายก็จะมีน้ำมาขวางกั้น ก็เป็นอุปสรรคให้เราได้วางแผนล่วงหน้า เพราะการไม่วางแผนนี่ก็ทำให้เสียหายได้

                ซึ่งนอกจากเล่นกอล์ฟ สิ่งที่ทำให้พี่ตุ๊ได้ผ่อนคลายคือ พักเรื่องนั้นไว้ก่อน เอาเรื่องอื่นมาดู ไปทำอย่างอื่นที่มันไม่กดดันหรือไม่เครียด อย่างปัจจุบันนี่ ถ้างานในออฟฟิศมันเครียดหนัก เครียดมาก ผมก็จะใช้วิธีออกไปตามสาขา ไปเจอพนักงาน ไปพูดคุย ก็เหมือนกับพักปัญหาที่เราแก้ไขไม่ได้ หรือคิดไม่ออก ก็ออกไป relax ข้างนอก ไปคุยกับพนักงาน ไปเจอลูกค้าบ้าง ทำให้เหมือนเราเบี่ยงเบนจากเรื่องเครียดไปก่อน รวมไปถึงหากเป็นช่วงวันหยุดยาวก็จะพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ทะเลก็ภูเขา อันนี้เป็นกิจกรรมในครอบครัว จะหาโปรแกรมเที่ยว ไปพักผ่อนกัน โดยจะชอบไปถ่ายรูปที่วัดต่างๆ ซึ่งวัดที่ชอบก็มีตั้งแต่วัดอรุณฯ วัดพระแก้ว ผมคิดว่ามันมีเสน่ห์ ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

                โดยปัจจุบัน พี่ตุ๊ มีลูกทั้งหมด 2 คน คนโตกำลังเข้ามหาวิยาลัยปี 1 เป็นผู้หญิง และอีกคนเป็นผู้ชายอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน อย่างลูกสาวคนโตชอบในการออกแบบวาดรูป ก็จะเลือกสาย digital design ส่วนคนเล็กผู้ชายเขามีความชอบ ถนัดดนตรี ก็จะมุ่งไปทางนี้เลยเพื่อไปต่อทางด้านดนตรีในระดับปริญญาตรีต่อไป

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...