ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
ฟ้าทะลายโจร LOGO กรมแพทย์แผนไทย ไอ้โม่งโผล่ขายในราคาแพงบนตลาดออนไลน
05 ส.ค. 2564

วินาทีนี้ ทุกคนกลัวโควิด-19 เมื่อยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ก็ต้องหาทางป้องกันตัวเองไว้ก่อน “ฟ้าทะลายโจร” ซึ่งเป็นยาสมุนไพรที่ถูกกล่าวขานว่า สามารถป้องกันและรักษาโควิด-19 ได้ เมื่อถูกเพิ่มชื่อเข้าไปอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร เมื่อ 4 มิ.ย. 64 ฟ้าทะลายโจรจึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แถมยังมีคนนำฟ้าทะลายโจร ซึ่งติดสัญลักษณ์กรมการแพทย์แผนไทย ออกมาเสนอขายในโลกออนไลน์ ด้วยราคาที่แพงกว่าปกติ

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณะสุข มีบทบาทในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพรในระบบบริการสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อต่อยอดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ฟ้าทะลายโจร” เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ถูกนำไปวิจัยในประสิทธิภาพการป้องกันและรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 จนกระทั่งราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา ได้ประกาศชื่อฟ้าทะลายโจรอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร

โดย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกยืนยันว่า ประสิทธิภาพของฟ้าทะลายโจรมีคุณภาพในการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของเม็ดเลือดขาว และเพิ่มระดับแอนตี้บอดี้ในกระแสเลือด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย มีส่วนช่วยยับยั้งการแพร่เชื้อโควิด-19 ในผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง สามารถใช้รักษาในอาการเบื้องต้นได้เท่านั้น การทานยาฟ้าทะลายโจรไม่สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ และมีข้อควรระวังในการรับประทานอีกด้วย ที่สำคัญคือ ไม่สามารถทดแทนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ ประชาชนยังต้องรับวัควีนป้องกันโควิด-19 และปฏิบัติตัวตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจกับคุณสมบัติของฟ้าทะลายโจร โดยให้กระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงสาธารณสุขแลกเปลี่ยนข้อมูลและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาร่วมกัน และให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข รับผิดชอบ รวมถึงการบูรณาการร่วมกับกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางยุทธศาสตร์แพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์ หลังจากที่ได้รับฟังข้อมูลจาก นายสมศักด์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนำเสนอผลของการแจกจ่ายฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ เรือนจำจังหวัดนนทบรี และเรือนจำกลางบางขวาง พบว่า สามารถลดการแพร่ระบาดและการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 อย่างมีนัยยะ

แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วงและกำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ก็คือ มีบริษัทผู้ผลิตยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ได้ฉวยโอกาสขึ้นราคาและโฆษณาเกินจริงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ชนิดที่ต้องเรียกว่า ไม่มีคุณธรรม เอารัดเปรียบและซ้ำเติมประชาชนที่กำลังต้องการฟ้าทะลายโจรอย่างมากในขณะนี้

ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ บริษัทผลิตและจำหน่ายยาฟ้าทะลายโจร ได้นำโลโก้ของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ไปติดไว้บนแคปซูลของยาฟ้าทะลายโจร เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แล้วป่าวประกาศขายยาฟ้าทะลายโจรผ่านระบบออนไลน์อย่างโจ่งครึ่มในหลายช่องทาง พร้อมระบุว่า ฟ้าทะลายโจรที่เขาผลิต สามารถป้องกันและรักษาโควิด-19 ได้ โดยไม่รู้ว่า ได้รับอนุญาตจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และคณะกรรมการอาหารและยาหรือไม่

จึงเกิดคำถามว่า การที่บริษัทผู้ผลิตยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีตราสัญญลักษณ์ทางราชการ (โลโก้) ในราคาที่แพงกว่าปกติ ผ่านระบบออนไลน์อย่างโจ่งครึ้มเช่นนี้ น่าจะไม่อง แต่เหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จึงไม่เร่งเข้าไปดำเนินการตรวจสอบหรือจับกุม

หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า จะเป็นไปได้ไหมว่า มีผู้บริหารระดับบิ๊ก หรือเจ้าหน้าที่บางคนในกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก รวมทั้งบุคคลากรในหน่วยงานกำกับดูแลด้านการโฆษณา อย่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีส่วนร่วมรู้เห็น เป็นใจ ด้วย ?!

แต่ที่แน่ๆ การฉวยโอกาสขึ้นราคาฟ้าทะลายโจรครั้งนี้ ส่งผลให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบท่ามกลางวิกฤติเลวร้ายของประเทศอยู่แล้ว มีข้อมูลพบว่า ในช่วงที่ห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ มีการขึ้นราคายาฟ้าทะลายโจร จากชุดละ130 บาท ขยับขึ้นเป็นชุดละ180 บาท และมีค่าส่งอีก 50 บาท เท่านั้นยังไม่พอ มีการโฆษณาไปขายต่อในเว็บต่างๆ มีราคาสูงขึ้นถึงชุดละ 250 บาท ข้อสำคัญคือ มีโลโก้ทางกรมฯ ติดอยู่ด้วย มันจะให้หมายความว่าอย่างไร และการที่บริษัทผู้ผลิตอ้างว่า ขณะนี้วัตถุดิบขาดแคลน จึงจำเป็นต้องประกาศขี้นราคายาฟ้าทะลายโจร มันใช่หรือ ต่อให้ใช่ ก็คงไม่ได้หมายความว่า จะขึ้นราคาไปได้เรื่อยๆ โดยที่ภาครัฐไม่ทำอะไรเสียเลย

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยกับ อปท.นิวส์ว่า โดยหลักการแล้ว เมื่อทางกรมแพทย์ฯ สั่งซื้อยาฟ้าทะลายโจรกับบริษัทผลิตยาฟ้าทะลายโจร เมื่อบริษัทผู้รับจ้างผลิตส่งยากลับมาให้กรมฯ เพื่อที่จะทำการบรรจุแล้วส่งให้กับโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ก็จะมีโลโก้ของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ติดอยู่ด้วย แต่สำหรับการแอบอ้างตราโลโก้ แล้วไปขายกันเกลื่อนในสื่อออนไลน์นั้น ถือว่ามีความผิด เป็นการละเมิดใช้ตราสัญลักษณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ทางราชการเสียหาย จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

แต่เรื่องนี้ต้องมีร้องเรียนเข้ามา ทางกรมฯ เองยังไม่ได้รับรายงาน ในหลักการทางกรมฯจะนำยาไปแจกจ่ายฟรี ไม่มีนโยบายที่จะขายแต่อย่างใด การนำไปขายที่มีโลโก้ราชการแบบนี้รับไม่ได้ เสียหายมาก เพราะสั่งให้ผลิตเพื่อนำไปแจกช่วยผู้ป่วยหรือผู้ที่รอเตียงกันอยู่มากมาย ถือว่าไม่มีจรรยาบรรณ

“ถามว่า ใครโฆษณาขายยาตัวนี้ที่มีโลโก้กรมฯ อยู่ด้วยในเว็บ คนนั้นต้องรับผิดชอบ เขาจะซื้อมาจากบริษัทฯ ที่กรมสั่งซื้อแต่ผลิตเพิ่มแล้วไปขายต่อโดยแอบใส่โลโก้ติดไปด้วย แบบนี้กรมฯ เสียหาย แต่ถ้าไปขายในนามบริษัทฯ เองโดยไม่มีโลโก้ก็ไม่เป็นไร ส่วนในเว็บออนไลน์ซื้อมาจากไหน ถ้ามีโลโก้ถือว่าหลอกลวงประชาชน เพราะกรมฯ ซื้อมาแจก แต่ทำไมขายกันเกลื่อน ส่วนราคาที่สูงขึ้นนั้นเราไม่ได้ดูแล นอกจากนี้ต้องดูว่าเป็นยาปลอมมั้ย ซึ่ง อย. ดูแล หรือโลโก้ทำปลอมขึ้นมาเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ”

การมียาฟ้าทะลายโจรแต่ถือว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะในยามนี้ประชาชนเดือดร้อน แต่การฉวยโอกาสขึ้นราคาสูง ยิ่งซ้ำเติมประชาชน ความจริงยาฟ้าทะลายโจรถือเป็นยาสามัญประจำบ้าน ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ และที่อ้างว่า วัตถุดิบขาดแคลนซึ่งไม่น่าจะใช่ เพราะกรมฯ มั่นใจว่า มียาสมุนไพรตัวนี้แจกจ่ายให้ประชาชนอย่างเพียงพอ ฟ้าทะลายโจรปลูกง่าย ใช้เวลาประมาณ 90 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวมาทำยาได้แล้ว ถ้าจะแจกคนไทย 1 ล้านคน ใช้พื้นที่ปลูกประมาณ 100 ไร่ เท่านั้นเอง

“สำหรับคนที่พบเชื้อโควิด-19 ผมแนะนำว่า ในส่วนที่กำลังรอเตียงอยู่นั้น ติดต่อไปที่ สปสช. 1330 จะมีการรับเรื่องแล้วติดต่อมายังผู้ป่วย สิ่งที่จะได้รับการบริการคือ การประเมินอาการ มีปรอทวัดไข้ มีอุปกรณ์เครื่องวัดความดัน รวมถึงเครื่องช่วยหายใจ และจะมียาฟ้าทะลายโจรแจกให้ด้วย”

ด้าน พล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ระบุว่า เวลานี้โควิด-19 แพร่กระจายไปทั่ว ศบค. หน่วยงานเดียวไม่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้ เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียารักษา วัคซีนก็ยังนำเข้ามาได้น้อย การรักษาของโรงพยาบาลต่างๆ ในปัจจุบันจึงเป็นเพียงการรักษาตามอาการ ให้ยาพาราแก้ปวด ให้ยาบรรเทาอาการอักเสบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แพทย์แผนไทยมีสมุนไพรและตำรับยาหลายขนาน ที่สามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้ เพียงแต่ยังไม่ถูกนำมาใช้ในวงกว้างเช่น ฟ้าทะลายโจรหรือตัวอื่นๆ หลักการของแพทย์แผนไทยคือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้สามารถต้านทานโรคได้ ซึ่งโควิด-19 ก็คือ ไข้หวัดชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ ทำให้สามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เมื่อแพร่เข้าสู่ปอดก็ไปทำลายปอด

ซึ่งในทางการแพทย์แผนไทยบอกว่า ถ้ารักษาไข้หวัดไม่หายภายใน 3-5 วัน มันจะแพร่ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หวัดลงคอ แพร่ไปสู่ปอดก็กลายเป็นนิวมอเนีย หรือโรคปอดอักเสบ เป็นวัณโรค เพียงแต่โควิด-19 เป็นไวรัสที่ขยายตัวได้เร็วขึ้นจนกระทั่งร่างกายรับไม่ไหว ทำให้ปอดทำงานไม่ได้ หายใจไม่ออก ระบบหายใจล้มเหลว และตายในที่สุด แต่ถ้าเราสามารถสกัดเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่กระจายได้ พร้อมกับกินยากระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อให้ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้ ผู้ป่วยก็จะหายจากโควิด-19

“น่าเสียใจที่ยาแพทย์แผนไทย ไม่มีโอกาสได้นำไปใช้ในการรักษาโควิด-19 แค่ขอให้นำยาเหล่านี้ไปใช้ในโรงพยาบาลสนามยังไม่ได้เลย พอเข้าสู่การเป็นโรคระบาดแล้ว แพทย์แผนปัจจุบันไม่ยอมให้ใช้ยาอย่างอื่น ทั้งที่แพทย์แผนปัจจุบันก็ยังไม่มียารักษา แม้แต่วัคซีนก็ยังไม่มีงานวิจัยรองรับเลย เพราะการวิจัยวัคซีนแต่ละชนิดต้องใช้เวลาถึง 10 ปี แต่หมอให้ใช้วัคซีนได้ พอเป็นยาแพทย์แผนไทยกลับไม่ให้ใช้ ถามว่า ประเทศไทยเรามีแค่ยาแผนปัจจุบันเท่านั้นหรือ เรามีแพทย์ทางเลือก มีภูมิปัญญาพื้นบ้าน มีแพทย์แผนไทย มีแพทย์แผนจีน ซึ่งสามารถรักษาโควิด-19 ได้ แต่ศูนย์โควิด-19 ใจแคบมาก ไม่ยอมให้ใช้ยาเหล่านี้รักษาเลย น่าสงสารประเทศไทย”

จึงอยากจะบอกประชาชนไว้ด้วยว่า ในยามที่กำลังเป็นห่วงสุขภาพกันทุกคน ขณะที่รอวัคซีนจากรัฐ การหาซื้อยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร หรือยาสมุนไพรตัวอื่นๆ เป็นทางเลือก หากพบว่า ยาที่ซื้อมานั้นมีตราโลโก้ของกระทรวงสาธารณสุขหรือกรมการแพทย์แผนไทยฯ ขอให้ร้องเรียนหรือแจ้งรายละเอียดมา ส่วนการขึ้นราคาที่แพงผิดปกติ ก็สามารถร้องไปทางกระทรวงพาณิชย์ได้เช่นกัน เพราะถือว่า เป็นการละเมิดและเอาเปรียบประชาชน” นายกสภาการแพทย์แผนไทย กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...