กบง.มีมติตรึงราคา LPG เดือนเม.ย.ไว้ที่ 20.96 บาทต่อกิโลกรัม ไม่ปรับลดราคาลงตามตลาดโลกเพราะต้องการลดภาระกองทุนLPG พร้อมเตือนประชาชนประหยัดไฟฟ้าต่อ แม้เดือนมี.ค.ไม่พีคตามคาด หลังได้รับอานิสงค์พายุฤดูร้อน แต่อาจเกิดพีคไฟฟ้าเดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ เพราะเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มที่ คาดพีคแตะ 32,000 เมกะวัตต์   
        นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)  มีมติให้ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ประจำเดือนเม.ย. 2560 ไว้เท่าเดิมที่ 20.96 บาทต่อกิโลกรัม มีผลตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 2560 เป็นต้นไป
        อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาต้นทุน LPG ตลาดโลกจะพบว่า ต้นทุนปรับลดลง 80 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน หรือ 2.90 บาทต่อกิโลกรัมก็ตาม แต่ กบง. ไม่ปรับลดราคาจำหน่ายลง เนื่องจากต้องการลดภาระกองทุน LPG โดยเมื่อเดือน มี.ค. 2560 ที่ผ่านมากองทุนฯ มีภาระชดเชยราคา LPG ทำให้เงินไหลออก 444 ล้านบาทต่อเดือน แต่เมื่อไม่ปรับลดราคาจำหน่ายรอบนี้ทำให้ปัจจุบันเงินไหลออกลดลงเหลือ 121 ล้านบาทต่อเดือน  
        นายทวารัฐ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุม กบง.ยังรับทราบสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ของประเทศในช่วงเดือนมี.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยพบว่าเดือนมี.ค.ไม่เกิดสถานการณ์พีคไฟฟ้าตามที่คาดไว้  28,000 เมกะวัตต์ เพราะเกิดพายุฤดูร้อนทำให้อุณหภูมิต่ำกว่าที่คาดไว้ 4-5 องศา ประกอบกับการปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซยาดานาในเมียนมาเสร็จเร็วกว่ากำหนด 1 วัน มีผลให้ยอดใช้ไฟฟ้าลดลงได้ 2,000 เมกะวัตต์ จากคาดการณ์ที่ 28,000 เมกะวัตต์ มาอยู่ที่ 26,000 เมกะวัตต์
        อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานยังขอให้ประชาชนประหยัดการใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง เพราะยังอาจเกิดพีคไฟฟ้าได้อีกในเดือนเม.ย.-ต้นเดือนพ.ค. 2560 นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนที่สุด โดยยังคงยืนยันอัตราพีคไฟฟ้าประเทศไว้ที่ประมาณ 32,000 เมกะวัตต์
        ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแหงชาติ(กพช.)ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คาดว่าจะเปิดประชุมรอบต่อไปในวันที่ 15 พ.ค. 2560 โดยวาระที่จะเข้าสู่การพิจารณาคือ ความชัดเจนในการเปิดเสรีกิจการก๊าซธรรมชาติ แบ่งเป็น การกำหนดมาตรการเปิดให้บุคคลที่สามเข้ามาร่วมใช้ท่อก๊าซฯได้ และความชัดเจนในการกำหนดหลักเกณฑ์ระหว่างผู้ประกอบการที่มีสัญญาก๊าซฯเดิมอยู่แล้ว กับกลุ่มผู้ประกอบการที่นำเข้าก๊าซฯใหม่มาว่าจะมีการจัดแบ่งแยกอย่างไรให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดการแข่งขันได้ต่อไป