ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กฟน. ห่วงใย สงกรานต์ปลอดภัย ห่างไกลอันตรายจากไฟฟ้า
10 เม.ย. 2560

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ห่วงใยประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน แนะนำควรตรวจสอบอุปกรณ์ ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันอัคคีภัยก่อนออกเดินทาง ระมัดระวังอันตรายจากไฟฟ้าเมื่อเล่นน้ำและตัวเปียก

นายชาญ ปัทมะวิภาค ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ กฟน. มีความห่วงใยประชาชนในการใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ ก่อนออกนอกบ้านควรดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพปลอดภัย ปิดสวิตซ์ไฟ ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ควรตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟ หากพบว่าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที พร้อมทั้งดูแลสภาพแวดล้อมรอบบ้านที่มีความเสี่ยงไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณต้นไม้รกทึบควรตัดแต่งกิ่งไม้ไม่ให้พาดเกี่ยวสายไฟเพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับและเกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าภายในบ้านได้

นอกจากนี้ ควรเล่นน้ำอย่างรู้คุณค่าและคำนึงถึงความปลอดภัยระมัดระวังไม่ควรสาดน้ำไปถูกอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือสายไฟที่ชำรุด เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและได้รับอันตรายจากถูกไฟดูดได้ โดยเฉพาะในขณะร่างกายเปียกชื้นไม่ควรสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้า การกดกริ่งไฟฟ้า การเสียบปลั๊กไฟ การเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า ป้ายโฆษณา อุปกรณ์ที่ใช้สร้างความบันเทิงต่างๆ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงเกิดไฟฟ้ารั่วทำให้เกิดไฟดูด การจัดงานกิจกรรม เช่น ปาร์ตี้โฟม อุโมงค์น้ำ ต้องติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วออกแบบและควบคุมโดยวิศวกรไฟฟ้า  หากพื้นที่ใดมีการจัดกิจกรรมแห่ขบวน ต้องระวังเกี่ยวสายสื่อสารและสายไฟฟ้าที่พาดผ่านเส้นทาง ตลอดจนควรหลีกเลี่ยงการดื่มของมึนเมาในระหว่างการเดินทาง เพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถชนเสาไฟฟ้า เพราะไม่เพียงแค่ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทางจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเท่านั้น หากแต่ยังอาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในบริเวณกว้างได้ 

อย่างไรก็ตาม หากพบเหตุฉุกเฉินหรืออันตรายเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า สามารถแจ้งผ่าน MEA Smart Life Application หรือติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center โทร 1130 ตลอด 24 ชั่วโมง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...