นายสุวิทย์ เมษินทรีย์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ เตรียมเสนอแผนปฏิบัติการ(โรดแมป) ส่งออกจากที่ได้หารือร่วมกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมต่างๆและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป้าหมายการส่งออกในปี 2559 และแผนระยะ 3-5 ปีข้างหน้าต่อที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกแห่งชาติ(พกค.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้

             ทั้งนี้คาดว่า ตัวเลขเป้าหมายส่งออกปีหน้าจะกลับมาเป็นบวกอย่างแน่นอน  แต่คงยากที่จะเห็นการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเหมือนกับในอดีตเพราะสถานการณ์โลกการค้าการลงทุนเปลี่ยนไปมาก  สำหรับโรดแมปในปี 2559 จะเน้นเจาะตลาดเฉพาะมากขึ้น  รวมถึงเจาะกลุ่มสินค้าและภาคบริการ โดยเฉพาะกลุ่มตลาด CLMV ( กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)  ซึ่งจะเป็นเป้าหมายหลักที่จะขยายตัวไปพร้อมกับการค้าชายแดน และเขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล หากไทยสามารถเข้าไปลงทุนหรือทำการค้าร่วมกับกลุ่ม CLMV ได้จะช่วยทำให้มูลค่าการค้าของไทยเพิ่มขึ้น และในอนาคตจะส่งผลดีมากกว่าการค้าชายแดน

             ขณะเดียวกัน กระทรวงยังได้รับมอบหมายจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ให้มองภาพรวม และวางแผนการค้าการลงทุน ให้เป็นเป็นรูปธรรมใน 5 ปี จึงได้หารือ และมอบนโยบายผ่าน VDO conference ให้กับ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ในอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมและวางแผนร่วมกัน ขณะเดียวกัน ในเดือนธันวาคมนี้จะมีการจัดคณะรัฐมตรี(ครม.)สัญจรไทย-กัมพูชา  ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยจะพบปะกับนายกฯฮุนเซนของกัมพูชา  ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น

           นอกจากนี้  ยังมีแผนเจาะตลาดใหม่และสำคัญต่อเนื่อง  อาทิ ญี่ปุ่น คิวบา รัสเซีย อินเดีย จีน และอิหร่าน   โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีแผนจะเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ เพื่อสร้างความร่วมมือทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านต่างๆต่อกัน อาทิ รัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และมีความต้องการสินค้าอาหาร  จึงน่าจะเป็นโอกาสของไทยและไทยก็ต้องการสินค้าพลังงานเช่นกัน  โดยในช่วงต้นปีหน้าน่าจะเกิดความร่วมมือระหว่างกันหลังมีการพบปะหารือกัน

            อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันที่ 20-25 พฤศจิกายนนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และภาคเอกชน จะเดินทางไปประเทศอิหร่าน  ซึ่งจะมีการหารือถึงความร่วมมือในโครงการเมกะโปรเจ็กต์  การนำเข้าไก่สด เนื้อจากปศุสัตว์ รวมทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ แฟชั่น สินค้าสุขภาพ และสปา  และอาจรื้อฟื้นโครงการที่อิหร่านเคยเสนอไทยให้ใช้บาร์เทอร์เทรดข้าวกับน้ำมัน   ซึ่งอาจขยายไปถึงสินค้ายางพารา  ขณะเดียวกันในปีหน้ากระทรวงมีแผนจะไปเยือนคิวบาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและขยายไปยังประเทศใกล้เคียงด้วย