รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยอมรับเป็นห่วงปัญหาซื้อ-ขายตำแหน่งตำรวจ โดยขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินกับผู้กระทำผิด เพราะอาจส่งผลกระทบแผนปฏิรูปตำรวจ

     นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวถึงกรณีร้องเรียนการซื้อขายตำแหน่งตำรวจในขณะนี้ โดยยอมรับว่ามีความกังวลใจที่บั่นทอนการปฏิรูปตำรวจ และขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ เพราะปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำลายระบบการโยกย้ายที่ต้องยึดระบบคุณธรรม นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังกำหนดให้การปฏิรูปตำรวจต้องแล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยการแต่งตั้งโยกย้ายจะต้องเป็นไปตามระบบอาวุโส เพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่ปัจจุบันยังพบพฤติกรรมดังกล่าว จึงอยากให้รัฐบาลดำเนินการจัดการกับผู้ที่หากินกับอาชีพตำรวจอย่างเฉียบขาด ขณะที่ สปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ คณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปตำรวจ และคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนการปฏิรูปตำรวจ และเห็นว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องเข้ามาสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ด้วย

     ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าผู้กระทำผิดเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อาจส่งผลกระทบต่อตำรวจชั้นผู้น้อยที่ร้องเรียนนั้น รองประธาน สปท. กล่าวว่าเมื่อมีการร้องทุกข์ควรเริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบ ด้วยการรับฟังข้อมูล และกันผู้ร้องเรียนไว้เป็นพยาน เพราะการให้สินบนเป็นการกระทำผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ ซึ่งส่วนตัวยินดีเป็นตัวกลางนำข้อมูลจากตำรวจที่แจ้งเบาะแสไปส่งให้นายกรัฐมนตรี พร้อมเห็นว่าการย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวนกรณีซื้อขายตำแหน่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว