นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ หรือ วิป สปท. กล่าวว่า การทำหน้าที่ของ สปท. จะสิ้นสภาพก็ต่อเมื่อมีกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ และกฎหมายแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ สปท. โดยคาดว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ จะมีผลบังคับใช้ประมาณต้นเดือนสิงหาคม ภายใน 120 วัน ตามกรอบระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทำให้ขณะนี้คณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เร่งพิจารณาวาระร่างกฎหมายที่ยังค้างการพิจารณา โดยเฉพาะวาระการปฏิรูปที่สำคัญและเร่งด่วนทั้ง 27 วาระ ที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในปี 2560
ขณะเดียวกัน สมาชิกได้มีการหารือเรื่องการส่งมอบรายงานการปฎิรูปให้คณะรัฐมนตรีก่อนหมดวาระ โดยมีมติให้ประธาน และ รองประธาน สปท. ไปหารือกับคณะรัฐมนตรี รวมถึงรูปแบบในการส่งมอบ คาดว่า น่าจะดำเนินการก่อนที่กฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้ง กฎหมายแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศจะมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ ได้กำหนดระเบียบวาระการประชุม โดยวันจันทร์ที่ 26 มิ.ย. จะมีการพิจาณารายงานการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา 2 เรื่อง คือ แผนการปฏิรูประบบการอุดมศึกษาที่เสนอให้มีการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา เพื่อกำกับดูแลการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นการเฉพาะและให้แยกการกำกับดูแลคุณภาพการศึกษาออกจากการประกันคุณภาพการศึกษาอย่างชัดเจน รวมถึงเรื่องการสร้างกลไกประชารัฐระดับพื้นที่ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาแบบมีส่วนร่วม
ส่วนวันอังคารที่ 27 มิ.ย. จะพิจารณารายงานการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจเรื่องการปฏิรูปการมีส่วนร่วมด้านการท่องเที่ยวทั้งระบบเพื่อความยั่งยืน