ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
“พระปกเกล้า”มุ่งเน้นงานตามพันธกิจหลัก เพื่อส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยไทย
08 ก.ค. 2560

จากกรณีที่สื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่ข่าวในกรณีที่ สภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติ สถาบันพระปกเกล้า พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งประเด็นที่สถาบันพระปกเกล้าสร้างหลักสูตร คอนเนคชั่นเข้าศึกษาในหลักสูตรต่างๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น

ศูนย์สื่อสาร สถาบันพระปกเกล้า ขอชี้แจง ในประเด็นดังกล่าว ดังนี้ สถาบันพระปกเกล้าในฐานะ เป็นสถาบันวิชาการ ภายใต้การกากับของประธานรัฐสภา ดำเนินงานมาตั้งแต่ ปี 2541 ภายใต้พันธกิจสำคัญในการสร้าง องค์ความรู้เพื่อพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “สถาบันวิชาการชั้นนา ด้านการพัฒนาประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล และสันติวิธี เพื่อประโยชน์ส่วนรวม” ซึ่งสถาบันทำหน้าที่ให้บริการทางวิชาการทั้งในรูปของการศึกษาอบรม ให้คำปรึกษา ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และบริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความรู้ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล และสันติวิธี เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนความรู้ความเข้าใจและการใช้สิทธิหน้าที่ของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ส่งเสริมความร่วมมือกับองค์การทั้งในและต่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล และสันติวิธี และส่งเสริมงานวิชาการของรัฐสภา ด้วยดีเสมอมา

ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินงานของสถาบันฯ นับตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ได้ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนงานให้กับสมาชิกรัฐสภา และบุคลากรในวงงานรัฐสภา รวมทั้งข้าราชการของรัฐสภาเสมอมา โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้เสนอบทวิเคราะห์ร่างกฎหมายต่อรัฐสภา รวมทั้งสิ้น 13 ฉบับ (โดยเป็นการร้องขอจากคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ร่างกฎหมาย ของ สนช. และสานักงานเลขาธิการวุฒิสภา จานวน 6 ฉบับ) และขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ จำนวน 9 ฉบับ รวมทั้ง จัดหลักสูตรเพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้บุคลากรในวงงานรัฐสภา “หลักสูตรวุฒิบัตร การปฏิบัติงานสนับสนุนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ” ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบัน จำนวน 4 รุ่น รวมผู้เข้าอบรม 326 คน (จำแนกเป็นผู้ช่วย สนช. –187 คน และผู้ช่วย สปท. –139 คน) รวมทั้ง “หลักสูตรการพัฒนานักบริหารระดับสูงสาหรับข้าราชการสามัญรัฐสภา” เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง (นบส.) จำนวน 2 รุ่น (รวมผู้เข้าอบรม 98 คน)

และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สถาบันพระปกเกล้า ได้ให้การสนับสนุนด้านบุคลากรและงบประมาณในการดำเนินกระบวนการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ เพียงเพื่อหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ประเทศไทยพัฒนาขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคงสืบไป

สำหรับการดำเนินการจัดการศึกษาอบรม สถาบันได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งมิได้เพียงมุ่งเน้น แต่การจัดอบรมหลักสูตรระดับสูง ที่มุ่งเน้นแต่นักวิชาการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ตัวแทนองค์กรอิสระ ผู้บริหาร ภาครัฐ ภาคเอกชน มาเข้ารับการอบรมเท่านั้น สถาบันพระปกเกล้ามีเครือข่ายส่งเสริมการเมืองในระดับชุมชนมากมาย อาทิ ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองในพื้นที่จังหวัดต่างๆ 49 ศูนย์ กระจายตัวอยู่ในแต่ละภูมิภาคของประเทศ รวมทั้งดำเนินโครงการสำคัญ เช่น โครงการสร้างสำนึกพลเมือง , โครงการโรงเรียนพลเมือง, โครงการเยาวชนไทยหัวใจ พลเมือง, โครงการซื่อตรง , โครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมท้องถิ่น, โครงการเสริมสร้างความรู้และศักยภาพในการ ทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดของการศึกษาอบรมเพื่อการขับเคลื่อนสังคมไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และอีก หลายๆ โครงการ สถาบันพระปกเกล้ายังส่งเสริมและพัฒนาพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพระปกเกล้าศึกษาอีกด้วย

นอกจากนี้ หลายหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้า ดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์เพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ หลักสูตรธรรมาภิบาลผู้บริหารทางการแพทย์ (ปธพ.) (ตั้งแต่รุ่นที่ 1-รุ่นที่ 5) ได้ดำเนินโครงการหน่วยแพทย์ อาสาบริการสาธารณสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ มาแล้ว 5 พื้นที่ โดยล่าสุด ระหว่างวันที่ 13-14 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา นักศึกษาหลักสูตร ปธพ. รุ่นที่ 5 ได้จัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉลิมพระเกียรติฯ ขึ้น ณ โรงพยาบาล เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี มีประชาชนเข้ารับการบริการและรับการรักษามากกว่า 10,000 ราย ซึ่งเป็นการนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ของนักศึกษาในหลักสูตรช่วยเยียวยาความเจ็บป่วย ของประชาชน

รวมถึงหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย (ปนป.) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการ กระตุ้นให้นักศึกษาดึงศักยภาพที่มีสร้างประโยชน์เพื่อสังคม โดยล่าสุด นักศึกษาหลักสูตร ปนป. รุ่นที่ 5 ได้ทำโครงงาน เพื่อสังคม ภายใต้หัวข้อ “ผู้นายุคใหม่ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง” จำนวน 10 กลุ่ม 10 โครงงาน โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ โครงงานด้านพลังบวก โครงงานพลังรักษ์โลก และโครงงานด้านพลังชุมชน ซึ่งในการจัดโครงงาน เชิงปฏิบัติการนี้ นักศึกษาลงพื้นที่ เรียนรู้ พูดคุยกับคนในชุมชน ศึกษาถึงสภาพปัญหาและความต้องการของคนใน ชุมชนอย่างแท้จริง พร้อมหาวิธีการแก้ปัญหา นาเสนอแนวทางที่ยั่งยืนในการจัดการกับปัญหาดังกล่าวและแนวทางที่จะ ต่อยอดในอนาคต ซึ่งทั้ง 2 หลักสูตรข้างต้น ถือเป็นตัวอย่างหลักสูตรที่ดึงศักยภาพของผู้เข้ารับการศึกษาอบรมมา บูรณาการสร้างประโยชน์ต่อประชาชนและสังคม นอกจากนี้ สถาบันฯ ยังมีมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า เพื่อสังคม ซึ่งทำกิจกรรมดีๆ เพื่อช่วยเหลือสังคมมากมาย

อีกทั้งสถาบันยังมีหลักสูตรอื่นๆ ที่เสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมแก่ผู้บริหารรวมถึงผู้ปฏิบัติงาน ได้แก่ หลักสูตรวิทันตสาสมาธิสำหรับนักบริหาร รวมถึงหลักสูตรอาจาริยสาสมาธิ เพื่อเป็นการพัฒนาจิตใจตามแนวทางของพระพุทธศาสนา มุ่งเน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมศึกษาวิธีการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดความเข้าใจและนำธรรมะไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวัน ถึงแม้หลักสูตรดังกล่าวมิได้อยู่ในพันธกิจหลัก แต่สถาบันพระปกเกล้าเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมอันเป็นรากฐานของประชาธิปไตยที่สำคัญ

สำหรับ การคัดเลือกนักศึกษาเข้าอบรมแต่ละหลักสูตรนั้น สถาบันฯ มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้เข้ารับการศึกษาอบรมอย่างมีขั้นตอน รัดกุม มีคณะกรรมการคัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อีกทั้งสถาบันฯ มีการดำเนินการจัดการศึกษาอบรมอย่างเป็นระบบ และขอเน้นย้ำว่า สถาบันพระปกเกล้ามีความมุ่งมั่นในการให้ความรู้เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยไทยอย่างแท้จริง

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...