ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
ประธาน ปปช. ชี้การทำข้อเสนอแนะรัฐบาล เพื่ออุดช่องโหว่ทุจริต
21 ก.ค. 2560

        พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกรรมการ (ปปช.) กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ทำข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการวางมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ที่พบว่ามีอัตราการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 สูงกว่า 7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากพฤติกรรมการทุจริต ว่า ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่ในการส่งข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของงบประมาณในอนาคต ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ใช้สิทธิ โรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงบริษัทจำหน่ายยาที่จะต้องมีธรรมาภิบาล ทั้งนี้ในส่วนของข้าราชการไม่ต้องหวั่นไหว เพราะยังสามารถใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลตามจริงได้ปกติ

      สำหรับกรณีที่ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้รับการสรรหาให้เป็นคณะกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ทำให้ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ว่างลง ว่า หากตำแหน่งว่าง จะต้องมีการดำเนินการตามระเบียบสรรหาเลขาธิการเพื่อให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้ามาปฎิบัติงาน ซึ่งจะมีคณะกรรมการสรรหาทั้ง 5 คน โดยมีคณะกรรมการป.ป.ช. 3 คน และ ผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ ยืนยันไม่กระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด ส่วนเรื่องคุณสมบัติ ไม่ได้ห้ามคนนอก แต่ในคณะกรรมการป.ป.ช.ได้มีการหารือกันคิดว่าคนในมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีความเข้าใจหลากหลายทั้งเชิงป้องกัน และเชิงปราบปราม จึงคิดว่ารองเลขาธิการป.ป.ช.เป็นผู้ที่ได้พัฒนา มีการเลื่อนระดับขึ้นมาด้วยความรู้ความสามารถ เพราะฉะนั้นก็น่าจะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนขึ้นเป็นเลขาธิการป.ป.ช.

    นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีการสอบทุจริตเงินทอนวัด ว่ามีการตั้งอนุกรรมการสอบสวน ซึ่งมีความชัดเจนในบุคคลที่จะกล่าวหาโดยสามารถจะเดินหน้าไต่สวนได้รวดเร็ว ส่วนในเรื่องอื่นๆ ที่ได้รับมาแล้วอยู่ในระหว่างหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบทุกด้านและชัดเจน โดยมีความคืบหน้าไปได้มากและคาดว่าจะใช่เวลาไม่นานในการออกคำสั่งได้อย่างครบถ้วน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...