ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
มท. ผนึกกำลังทุกภาคส่วน รวมใจภักดิ์ เปิดสถานีจัดเก็บผักตบชวา (ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
27 ก.ค. 2560

          นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดสถานีจัดเก็บผักตบชวา (ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา 28 กรกฎาคม 2560 ณ บริเวณวัดกร่าง ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

ซึ่งสถานีจัดเก็บผักตบชวาดังกล่าว จัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ 3 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน และกรมเจ้าท่า เพื่อใช้เป็นสถานีในการกำจัดผักตบชวาในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

           นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาผักตบชวาเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาผักตบชวาที่เกิดขึ้นในแม่น้ำสายหลักในลุ่มน้ำภาคกลางตอนล่าง ได้แก่ แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผักตบชวาจะไหลตามกระแสน้ำขึ้นและน้ำลง และจะไหลมารวมกันจนเกิดการสะสมอยู่ในบริเวณตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ การสัญจรทางน้ำ การคมนาคมขนส่ง และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จากผลการสำรวจปริมาณผักตบชวาทั่วประเทศขณะนี้มีมากถึง 7.4 ล้านตัน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ค. 60) รัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประกอบกับ ข้อสั่งการในที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้แบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบในการกำจัดผักตบชวา โดยแหล่งน้ำปิดทั่วไป และแหล่งน้ำเชื่อมโยง มอบหมายให้ท้องถิ่นเจ้าของแหล่งน้ำรับผิดชอบ ส่วนแหล่งน้ำเปิด (ลุ่มน้ำภาคกลางตอนล่าง) มอบหมายให้ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน และกรมเจ้าท่า เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบดำเนินการบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยมีหน่วยงานทหารสนับสนุนกำลังพลและเครื่องจักรกล รวมทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในรูปแบบ “ประชารัฐ” เพื่อร่วมกันในการแก้ไขปัญหาผักตบชวาให้เกิดความยั่งยืน

           สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ในการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ตามมาตรการปราบปราม (เก็บใหญ่) และ มาตรการป้องกัน (เก็บเล็ก) มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการใช้วิธีติดตั้งทุ่นลอยเพื่อดักผักตบชวาและเก็บทิ้ง โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีการสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ เพื่อทำการทดลองใช้ทุ่นลอยดักผักตบชวา จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ แม่น้ำแม่กลอง บริเวณสะพานกอบกุล อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และ แม่น้ำท่าจีน บริเวณสะพานวัดบางไผ่นารถ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ การจัดเก็บผักตบชวามีความสะดวก รวดเร็ว สามารถประหยัดงบประมาณค่าขนส่งผักตบชวาไปทิ้งได้ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีกำจัดผักตบชวาที่มีประสิทฺธิภาพ จึงได้นำวิธีการดังกล่าวไปขยายผลยังลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการจัดตั้งสถานีจัดเก็บผักตบชวาที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี กับอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน สนับสนุนเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่จัดเก็บผักตบชวา และหน่วยงานทหารในพื้นที่สนับสนุนกำลังพล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน ร่วมกันสนับสนุนแรงงาน เพื่อบูรณาการในการเร่งกำจัดผักตบชวาในพื้นที่รับผิดชอบของกรมเจ้าท่าร่วมกัน จากนั้นจะส่งมอบสถานีฯ แห่งนี้ให้กรมเจ้าท่ารับผิดชอบดูแลต่อไป      

       ปัจจุบันกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดตั้งสถานีจัดเก็บผักตบชวาแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ 1.สถานีสะพานวัดบางไผ่นารถ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม (แม่น้ำท่าจีน) 2.สถานีสะพานทรงคะนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม (แม่น้ำท่าจีน) 3.สถานีวัดเทียนดัด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม (แม่น้ำท่าจีน) และ 4.สถานีสะพานกอบกุล อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี (แม่น้ำแม่กลอง)

    ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดสถานีจัดเก็บผักตบชวาในครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน ประกอบด้วย หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน จำนวนประมาณ 1,000 คน ที่มีส่วนร่วมและเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาผักตบชวาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา 28 กรกฎาคม 2560 เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และถวายเป็นพระราชกุศล ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยนานัปการ

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...