ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน หนุน มช.พัฒนาแอพพลิเคชั่น
08 ส.ค. 2560

กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน หนุน มช.พัฒนาแอพพลิเคชั่น "CM Taxi" เรียกรถสองแถวแดง จ.เชียงใหม่ ด้วยสมาร์ทโฟน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ลดปัญหาการจราจร และช่วยประหยัดน้ำมันได้ปีละ 30 ล้านบาท เตรียมพร้อมเข้าสู่เมืองแห่งอนาคต สมาร์ทซิตี้

          ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญทางภาคเหนือ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าปีละ 7 ล้านคน ที่ผ่านมาพบว่าระบบขนส่งมวลชนสาธารณะยังขาดประสิทธิภาพ และไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่น

          ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งมวลชน และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้สามารถเข้าถึงบริการรถสองแถวแดง ซึ่งเป็นรถสาธารณะหลักของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน จึงได้มอบหมายให้คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) พัฒนาแอพพลิเคชั่น "CM Taxi" เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ "ระบบตารางเดินรถสองแถวแดงแบบแอคทีฟและการพัฒนาแอพโทรศัพท์มือถือ" โดยการสนับสนุนงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

          สำหรับการทำงานของแอพพลิเคชั่น "CM TaxI" ได้มีการศึกษาและพัฒนาเพื่อให้เข้ากับวิถีของคนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน มีหลักการออกแบบคือ ให้การบริการสองแถวแดงเป็นระบบแชร์แท๊กซี่ (Share taxi หรือ Car pool) ที่การให้บริการของสองแถวแดงสามารถรับผู้โดยสารระหว่างทางเพิ่มเติมได้ ให้ผู้โดยสารเข้าถึงคนขับโดยตรง ไม่มี Call center หรือ Command center และไม่เสียค่าบริการให้กับแอพพลิเคชั่น ผู้โดยสารสามารถต่อรองราคาได้ ผลการออกแบบได้โหมดการทำงานมี 3 โหมด คือ "โทรได้ เรียกได้ และโบกได้" โหมด "โทรได้" ผู้โดยสารสามารถโทรเหมารถกับคนขับรถได้โดยตรง โดยเลือกจากรายการรถจอดรอที่แสดงในหน้าแอพพลิเคชั่น การโทรเหมาจะเหมาะกับกลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางหลายคน หรือมีสัมภาระจำนวนมาก เช่น แม่ค้าที่ขายของในตลาด หรือนักเดินทางที่มาทางเครื่องบิน รถไฟ หรือรถบัส สามารถนัดหมายให้มารับตามเวลาที่นัดหมายกันไว้ได้ สามารถโทรเหมารถได้ทั้งวัน เช่น ท่องเที่ยวขึ้นดอย เป็นต้น โหมด "เรียกได้" เป็นแบบเรียกรอแบบออนไลน์คล้ายกับแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือทั่วไป ผู้โดยสารจะต้องแจ้งปลายทางที่จะเดินทางและจำนวนคนเดินทาง คนขับจะตอบกลับมาว่าคิดราคาค่าบริการเป็นจำนวนเงินเท่าไร เมื่อตกลงทั้งสองฝ่ายแล้วคนขับถึงจะขับรถมารับผู้โดยตามตำแหน่ง GPS ที่แสดงในแผนที่ โหมดนี้พื้นที่บริการภายในวงแหวนรอบ 2 ของจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น และ "โบกได้" ผู้โดยสารจะต้องไปยืนโบกรถที่ป้ายจริง (ป้ายรับผู้โดยสารของเทศบาลนครเชียงใหม่ 200 จุด) คนขับจะต้องป้อนตำแหน่งป้ายที่ตนเองจะขับผ่าน 3-4 ป้าย เพื่อระบบจะนำข้อมูลมาสร้างเส้นทาง (route) ชั่วคราวขึ้น เพื่อผู้โดยสารจะได้เห็นรถในแอพโทรศัพท์มือถือทั่วไป และเดินไปโบกรถที่ป้ายได้ โหมดนี้เป็นการจำลองระบบทรานซิส (Transit) ที่ใช้ในต่างประเทศ แต่เอามาประยุกต์ให้เป็นการสร้างเส้นทางแบบชั่วคราว ทั้ง 3 โหมดจะช่วยให้ผู้โดยสารจะได้รับความเป็นธรรมในราคาค่าบริการสามารถที่จะปฏิเสธได้ถ้าราคาไม่เหมาะสม แอพพลิเคชั่นสามารถรองรับระบบปฏิบัติการ Android และ IOS รองรับได้ 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน

          "ปัจจุบันแอพพลิเคชั่น CM Taxi มีรถสองแถวแดงเข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้วจำนวน 500 คัน ซึ่งกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานตั้งเป้าหมายที่ 1,000 คันในเบื้องต้น จากจำนวนรถสองแถวแดงทั้งสิ้น 2,400 คัน และจากการเปิดใช้งานที่ผ่านมา มีผู้โดยสารมีการโหลดแอพพลิเคชั่นแล้วกว่า 2,000 ราย ซึ่งประโยชน์ของการดำเนินโครงการฯ นอกจากการนำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะการวิ่งวนเที่ยวเปล่าเพื่อรับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นระบบเดิมที่มีการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมาก รวมถึงการจอดรถของรถสองแถวแดงในบริเวณที่เหมาะสม เพิ่มรายได้ให้เจ้าของรถ ลดมลพิษทางอากาศและเสียง ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยตั้งเป้าประหยัดน้ำมันลงได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 หรือคิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ปีละประมาณ 30 ล้านบาท โดยหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ จะมีการขยายระบบไปยังเส้นทางเดินรถในอำเภอใกล้เคียง และจังหวัดอื่นๆ " ดร.ทวารัฐ กล่าว

          

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...