ดร. ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ให้นโยบายในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ยางพา ระยะ 20 ปีนี้ขึ้นมา ด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ ซึ่งจากนี้ 20 ปียางพาราของไทยจะมีการปรับเปลี่ยนที่จะพัฒนาให้เป็นฮับด้านยางพารา

ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนร่างยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปีนี้จะสืบเนื่องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งแนวคิด แนวทาง และงบประมาณ โดยจะรวบรวมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการประกอบธุรกิจยางพาราเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งต่อจากนี้โลกจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นยางพาราของประเทศไทยจึงต้องมีการปรับตัวที่ต้องเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มให้ได้

ทั้งนี้ ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ได้ย้ำถึงการดำเนินการที่จะให้ไปถึงเป้าหมายได้ว่า จะต้องเริ่มจากเกษตรกรที่ต้องมีความพร้อมและต้องมีรายได้ที่มั่นคง /เรื่องการยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน เนื่องจากจะมีประเทศผู้ปลูกยางเกิดขึ้นอีกมาก ดังนั้นเราต้องรัษาคุณภาพให้ได้ /เรื่องการประกอบธุรกิจยางพาราที่จะต้องทำให้เป็นตลาดใหม่ที่กว้างขึ้น รวมถึงการนำนวัตกรรมมาใช้ในอุตสาหกรรมยางพาราที่เราจะไม่เพียงแต่ผลิตน้ำยางพารา แต่เราจะสร้างมูลค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์ของยางพาราด้วย

อย่างไรก็ตาม ตามที่การยางแห่งประเทศไทยได้ให้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของโครงการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งหวังให้มีการจัดทำยุทธศาสตร์พัฒนายางพาราทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวที่ครอบคลุมยางพาราทั้งระบบ เพื่อที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตลอดจนมีแนวทางการแก้ไขปัญหาที่สามารถนำไปปฏิบัติและแก้ไขปัญหาได้จริงนั้น ในขณะนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าได้ทำการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี เสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดนำร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวไปทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียต่อไป