ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แนะ ควรขยายระบบขนส่งมวลชนให้ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนตามการขยายของเมือง เพื่อกระจายการจราจรไม่ให้เกิดความหนาแน่นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
21 ก.ย. 2560

พลโทจเรศักดิ์ อานุภาพ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. กล่าวว่า ปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ผู้ใช้รถใช้ถนนประสบอยู่ทุกวันนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ซึ่งสาเหตุมาจากการพัฒนาเมือง การขยายตัวของเขตเมือง จำนวนประชากร รวมไปถึงขาดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนต่างๆ จนกรุงเทพมหานครได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่รถติดมากที่สุดอันดับต้นๆของโลก

ทั้งนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ทั้งเรื่องงบประมาณและการตรากฎหมาย ซึ่งตนขอชื่นชมการทำงานของคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ได้หาแนวทางในการแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และหวังงว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข

ขณะที่ นายวันชัย ศารทูลทัต รองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการคมนาคมทางบกและทางราง ได้นำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวมว่า การศึกษานี้จะไม่เป็นเพียงเอกสาร แต่จะมีการขับเคลื่อนให้ทำได้จริง โดยได้แบ่งการแก้ไขเป็นเชิงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการจราจร คือเห็นสมควรให้ปรับปรุงหรือขยายผิวจราจรบริเวณที่ติดขัด และพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างถนนสายหลักกับถนนสายรอง และควรขยายระบบขนส่งมวลชนทางรางให้ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนตามการขยายของเมือง เพื่อกระจายการจราจรไม่ให้เกิดความหนาแน่น และยกระดับให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดีและได้มาตรฐาน รวมไปถึงการแก้ไขบูรณาการระบบขนส่งทางบก ทางน้ำและทางราง เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และควรบริหารจัดการจราจรและกำกับดูแลการจราจร ด้วยการมีหน่วยงานที่สามารถวางแผน จัดการจราจรโดยใช้เทคโนโลยีได้อย่างเป็นเอกภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...