ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
พล.อ.อนุพงษ์ มั่นใจการระบายน้ำ ไม่กระทบ กทม. พร้อมยืนยันยังไม่ซื้อเครื่องจับความเร็ว
24 ต.ค. 2560

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำว่า ขณะนี้มี 9 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในแม่น้ำปิง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำสะสม ทางกรมชลประทานจึงต้องเร่งระบายไปยังพื้นที่ที่สามารถจัดการได้ในปริมาณ 2,700 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ยืนยันว่าการเร่งระบายน้ำจะไม่กระทบต่อพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่จะกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ เช่น จังหวัด นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี รวมถึงคาดว่าอีก 2 วันจะกระทบจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ในส่วนภูมิภาคยังสามารถดำเนินการจัดกิจกรรมถวายดอกไม้จันทน์ได้ แต่อาจะต้องมีการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เล็กน้อย เช่น การปรับจุดวางดอกไม้จันทน์ 

พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีความขัดแข้งในพื้นที่จากการขุดคันดินกั้นน้ำในบางพื้นที่ว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ซึ่งต้องค่อยๆชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่อยากให้กระทบกับพื้นที่เศรษฐกิจ แต่ก็เข้าใจประชาชนที่อยู่ในแนวคันดินที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนได้ ส่วนความขัดแย้งระหว่างนายก อบต.โผงเผง กับผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กรณีชาวบ้านหนีน้ำท่วมมากางเต๊นท์บนถนนในพื้นที่ ต.โผงเผง นั้น พล.อ.อนุพงษ์ ย้ำว่าจะต้องยึดตามกฎหมายสอบสวนตามขั้นตอน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะเรื่องไม่ใช่การแก้ไขปัญหาระยะยาว 

พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึง การจัดซื้อเครื่องตรวจความเร็วของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งฝ่ายการเมืองออกมาโจมตีว่าจัดซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดนั้น ว่า เท่าที่ทราบ ราคาดังกล่าวถูกกว่าราคาตลาด โดยเป็นราคาที่ยึดตามสเป็กที่กำหนด หากใครเห็นว่าสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่านี้ ในสเป็กที่เท่ากันก็ขอให้บอก 

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้ออยู่ในระหว่างให้หน่วยงานต้นสังกัดกำหนดสเป็กและจัดทำทีโออาร์ เมื่อขั้นตอนดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว จะออกมาวิจารณ์ก็ได้

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...