ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
สั่งลงพื้นที่สำรวจผลผลิตปาล์มน้ำมัน เร่งหามาตรการรักษาเสถียรภาพราคา
03 ธ.ค. 2560

กระทรวงเกษตรฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจผลผลิตปาล์มน้ำมัน พร้อมเตรียมมาตรการแก้ปมเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันช่วงผลผลิตชุก

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยเกี่ยวกับความกังวลของเกษตรกรต่อปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันที่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2560 – มกราคม 2561 ว่าสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น เกษตรกร สมาคมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และGISTDA ลงพื้นที่สำรวจผลผลิตในแหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน 2560 เพื่อติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงของการผลิตที่ชัดเจนและได้ข้อมูลที่เป็นเอกภาพ เพื่อส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการปาล์มน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน ประกอบด้วย มาตรการ ระยะสั้น มอบหมายให้กระทรวงพลังงานออกประกาศปรับสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซล จาก B5 เป็น B7 ซึ่งจะมีการใช้น้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 12,000 ตัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2560 และกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในขอความร่วมมือกรมธุรกิจพลังงานให้ประสานผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ปรับสำรองไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น และให้สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มและสมาคมไบโอดีเซล รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 22 บาท รวมทั้งห้างค้าส่ง-ปลีก สมัยใหม่ (Modern Trade) งดจัดรายการส่งเสริมการขายน้ำมันพืชปาล์ม

ระยะยาว ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบปี 2560–2579 ซึ่ง ครม. มีมติรับแล้วเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 โดยยุทธศาสตร์ดังกล่าวมีเป้าหมายที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1) การเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันต่อไร่และการลดต้นทุนการผลิต 2) การส่งเสริมการทำปาล์มคุณภาพเพื่อเพิ่มอัตราการสกัดน้ำมันจากร้อยละ 17 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 23 ในปี 2579 และ 3) การเพิ่มช่องทางการใช้น้ำมันปาล์มให้เพิ่มมากขึ้น เช่น การเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลเป็น B10 การพัฒนาอุตสาหกรรมโอเลโอเคมีคอล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายยกกระดาษ A4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรทั่วไปมีต้นทุนการผลิตลดลง ผลผลิตและมูลค่าต่อหน่วยเพิ่มขึ้น ผลผลิตได้มาตรฐานมีตลาดรองรับสินค้าเกษตรที่แน่นอน โดยการส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องการผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ ตลอดจนเชื่อมโยงการผลิต การตลาด ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และสร้างเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่ ผู้ตัดปาล์ม ลานเท กับโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ที่จะร่วมกันยกระดับคุณภาพเปอร์เซ็นต์น้ำมันเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ได้มาตรฐาน เพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมัน

โดยประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเห็นความสำคัญของการตัดปาล์มสุก เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ซึ่งเปอร์เซ็นต์น้ำมันทุกๆ 1 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกรจะได้รับราคาเพิ่มขึ้น 0.30 บาท/กิโลกรัม โดยปัจจุบันเกษตรกรที่ตัดปาล์มคุณภาพ (ปาล์มสุก) ได้รับราคาอยู่ระหว่าง 4.20 – 4.50 บาท/กิโลกรัม ซึ่งหากเกษตรกรชาวสวนปาล์มให้ความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งผลโดยตรงต่อราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ในราคาที่สูงขึ้น และนำไปสู่การผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้มาตรฐานในระดับต่างๆ

ทั้งนี้ ผลผลิตปาล์มน้ำมัน ปี 2560 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าจะมีปริมาณ 12.47 ล้านตัน ใกล้เคียงกับ ปี 2557-2558 ซึ่งเมื่อเทียบกับ ปี 2559 อยู่ที่ 10.997 ล้านตัน เพิ่มขึ้น คิดเป็น ร้อยละ 13.39 ซึ่งปัจจุบัน ณ วันที่ 17 พ.ย.60 ราคาผลปาล์มน้ำมัน (18%) กก.ละ 3.80 – 4.10 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 20.75 – 21.00 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซีย (16 พ.ย.60) กก.ละ 21.32 บาท และสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือ จากการแจ้งตามประกาศ กกร. นับตั้งแต่เดือน พ.ค.60 สต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือมีจำนวนมากกว่า 400,000 ตันCPO มาถึงปัจจุบัน

โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากปริมาณผลปาล์มที่ออกสู่ตลาดมีมากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน มี.ค.60 ปริมาณผลปาล์ม อยู่ที่ 1.11 ล้านตัน จนถึงปัจจุบัน ต.ค.60 อยู่ที่ 1.57 ล้านตัน ประกอบกับมีการส่งเสริมให้เกษตรกรทำปาล์มคุณภาพโดยการตัดปาล์มสุก เปอร์เซ็นต์น้ำมันเพิ่มขึ้น จาก 15 – 16% เป็น 17 – 18% ทำให้มีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...