เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2561 เวลา 10.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมวิชาการประจำปี 2561 ของสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ "เทศบาลกับการปฏิรูปประเทศภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายประเสริฐ วชิรเขื่อนขันธ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ และมีนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล ปลัดเทศบาลทั่วประเทศ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 3,000 คน เข้ารับฟัง ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี 

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า ในชวงทศวรรษที่ผานมา กระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกเปนไปอยางรวดเร็ว ทําให้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ กอใหเกิดโอกาสทั้งในดานเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอม และเทคโนโลยี ในขณะเดียวกันก็เปนความเสี่ยง และเกิดภัยคุกคามที่ตองบริหารจัดการดวยความยากลําบากมากขึ้น ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นต้องมี “แผนยุทธศาสตรชาติ 20” เพื่อให้ระบบการบริหารราชการแผนดินมีเปาหมายการพัฒนาในระยะยาว และเพื่อเปนการกําหนดใหฝายบริหารมีความรับผิดชอบที่จะตองขับเคลื่อนประเทศไปสู่เปาหมายที่เปนที่ยอมรับรวมกันและเปนเอกภาพ ซึ่งในวันนี้ท่านทั้งหลายที่มาร่วมประชุม ไม่ว่าจะเป็นท่านนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล และผู้แทนจากองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่เป็นกลไกขับเคลื่อนแผนยุทศาสตร์ชาติสู่ประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง และเชื่อว่าผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านจะได้รับความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการ และเกิดประโยชน์กับประชาชนในท้องถิ่นต่อไป

นายสุทธิพงษ์ได้กล่าวต่อถึงอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดำเนินงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ว่ามีหลากหลายด้านเช่นกัน เช่น ด้านการดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษา โดยดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กในครรภ์มารดา และเด็กแรกเกิดให้มีสุขภาพแข็งแรง ผ่านการส่งเสริมการทำงานของ อสม. และเงินสวัสดิการเด็กแรกเกิดเดือนละ ๖๐๐ บาท สำหรับครอบครัวยากจน หรือการส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ (พัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ครอบคลุมและเท่าเทียม) ได้แก่ การพัฒนาร่างกายและสติปัญญาในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่มีปิดเทอม) การเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้และทำกิจกรรมสำหรับเด็ก การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาผ่านโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการสร้างรายได้ลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และแหล่งน้ำ การดูแลถนนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และถนนถ่ายโอนให้มีมาตรฐาน การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กผิวดิน และน้ำใต้ดิน (ธนาคารน้ำใต้ดิน)  หรือการส่งเสริมการใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมในการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมเศรษฐกิจและการตลาด พัฒนาอาชีพภาคเกษตร และสร้างการรวมกลุ่มของเกษตรกร ดังเช่นโครงการตลาดประชารัฐ ตลาดท้องถิ่นสุขใจ หรือแม้แต่การนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิถีการดำเนินชีวิต หรือด้านการดำเนินงานศูนย์ช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในการช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นการช่วยเหลือ ประสาน และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยจัดตั้งพื้นที่กลางอำเภอละ ๑ ศูนย์ เพื่อสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนในทุกด้าน และเร่งดำเนินการแก้ไข

นอกจากนี้ ยังมีด้านการดูแล รักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจากการจราจร  การส่งเสริมสุขภาพอนามัย ในการรณรงค์อาหารปลอดภัย และลด ละ เลิกอบายมุข ส่งเสริมให้มีการตรวจสุขภาพพื้นฐานของประชาชน สร้างอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ป่วยเรื้อรัง ตลอดจนการจัดระบบสวัสดิการสังคมให้กับผู้สูงอายุ หรือผู้ด้อยโอกาส นำศักยภาพผู้สูงอายุมาใช้ในการพัฒนาเด็กและชุมชน  

ในตอนท้าย นายสุทธิพงษ์ได้กล่าวว่า เป้าหมายการพัฒนาประเทศสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” จะประสบความสำเร็จได้อยู่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะต้องมีบทบาทสำคัญในการสานพลังทุกภาคส่วน ในลักษณะที่เป็นประชารัฐ ให้เข้ามาร่วมมือกันในการใช้ศักยภาพของแต่ละภาคส่วนสานเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศร่วมกัน โดยในส่วนของภาคประชาชนจะเป็นพลังจิตอาสาในการร่วมดูแลและจัดการชุมชนท้องถิ่นของตนเองอย่างสำคัญ และขอเป็นกำลังใจให้ผู้บริหารทุกท่านได้ขับเคลื่อนสานต่อนโยบายต่างๆ ให้สัมฤทธิ์ผล เกิดเป็นรูปธรรม ร่วมกันตั้งใจทำประโยชน์กลับคืนให้แก่ประเทศชาติต่อไป