นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ และนายประเสริฐ โหล่วประดิษฐ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงดอนเมือง จัดแถลงข่าว “การใช้ EM กับคดีเมาแล้วขับช่วงเทศกาลสงกรานต์” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ณ ห้องประชุมกรมคุมประพฤติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า การประสานความร่วมมือระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมและ กรมคุมประพฤติในครั้งนี้ เป็นการนำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว EM (กำไลข้อเท้า) ที่ศาลยุติธรรมจัดหาไว้มาใช้ในขั้นตอนหลังพิจารณาคดีกับผู้ถูกคุมความประพฤติ ตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งศาลกำหนดเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการคุมความประพฤติ โดยระยะแรกจะใช้กับคดีเมาแล้วขับและนำร่องที่ศาลแขวงพระนครเหนือ และศาลแขวงดอนเมือง โดยเริ่มตั้งแต่เทศกาลสงกรานต์นี้
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สำหรับการใช้ EM กรมคุมประพฤติจะดำเนินการตามที่ศาลกำหนดเป็นเงื่อนไขการคุมประพฤติ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมและสำนักงานคุมประพฤติในการติดตามผู้ถูกคุมความประพฤติ ซึ่งได้ฝึกอบรมพนักงานคุมประพฤติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถดำเนินการตามมาตรการใช้ EM กับกลุ่มผู้กระทำผิดในคดีขับรถขณะเมาสุราได้ทันที
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงดอนเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจของศาลจะนำ EM มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของจำเลยที่ต้องพิพากษาแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 200-250 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ศาลอาจใช้ดุลยพินิจสั่งให้รอการลงโทษ และกำหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติ เช่น ห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัยในยามวิกาล โดยการใช้ EM กับกลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าวภายใต้การดูแลของกรมคุมประพฤติต่อไป