ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
ขึ้นทะเบียน'เกษตรกร' ขีดเส้น ส.ค. ก่อนถูกตัดสิทธิช่วยเหลือจากรัฐ
16 ส.ค. 2561

นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการรับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรของประเทศไทย โดยในปี 2560 มีเป้าหมายการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร 6,700,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันมีเกษตรกรมาขึ้นหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร 5,568,100 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 83.11 จากเป้าหมายการขึ้นทะเบียนเกษตรกรทั้งหมด ซึ่งยังมีเกษตรกรอีกประมาณ 1 ล้านครัวเรือน ที่ยังไม่มีการมาแจ้งปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ทำให้กรมส่งเสริมการเกษตรต้องเร่งรัดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรดังกล่าวนี้

ทั้งนี้ ในปี 2561 กรมส่งเสริมการเกษตรได้เร่งรัดติดตามงานการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกร เป้าหมายเหล่านี้ให้มาแจ้งปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรโดยเร็ว โดยแจ้งหลังปลูกพืชแล้ว 15-60 วัน และให้ทันกับกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ในปี 2561 ในกรณีที่เกษตรกรไม่มาปรับปรุงทะเบียนนานเกิน 3 ปี นับถัดจากวันที่ 23 มิ.ย.2560 จะถูกตัดบัญชีทะเบียนเกษตรกรทิ้งทันที ทำให้หมดสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ

สำหรับวิธีการแจ้งขึ้น/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทำได้หลายช่องทาง ได้แก่ 1.ให้เกษตรกรติดต่อสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ทำการเกษตร 2.แจ้งผ่านอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) 3.แจ้งผ่านสมุดทะเบียนเกษตรกรอิเล็กทรอนิกส์หรือแอพพลิเคชั่น DOAE Farmbook ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้จะทำให้เกษตรกรทราบข้อมูลของตนเองได้ตลอดเวลา และสะดวกในการติดต่อกับ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรนั้น คือ 1.เป็นฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรในการพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประสบภัยพิบัติ หรือมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ของรัฐ 2.เป็นเอกสารยืนยันตัวตนความเป็นเกษตรกร และ 3.เกษตรกรได้รับสิทธิความช่วยเหลือในกรณีประสบภัยพิบัติ หรือตามมาตรการแก้ปัญหาและจ่ายเงินชดเชยเยียวยาจากภาครัฐ

และล่าสุด ครม.มีมติเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2561 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/2562 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ โดยการจ่ายค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้เกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ไร่ละ 1,500 บาท ตามพื้นที่ปลูกข้าวจริงไม่เกินครัวเรือนละ 12 ไร่ หรือคิดเป็นเงินไม่เกินครัวเรือนละ 18,000 บาท เพิ่มขึ้น 3,000 บาท จากปีที่ผ่านมา ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 1 ก.ย. 2561-30 ก.ย. 2562

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...