นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการสัมมนาวิชาการเรื่อง การตัดสินใจแบบมีส่วนร่วม เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลการจัดการดินอย่างยั่งยืนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงห่วงใยเรื่องดิน เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่เมื่อดินดี น้ำดี ต้นไม้ดี อากาศจะดีและเมื่อดินดีก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดด้านความมั่นคงของมนุษย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าพื้นที่การเกษตร 130 ล้านไร่ มีประมาณ 108 ล้านไร่ที่เป็นดินเสียจากสารเคมีและมีความเสี่ยงกับดินโคลนถล่ม เพราะการเพาะปลูกที่ไม่เหมาะสม มีการใช้สารเคมีมากเกินไป การฟื้นฟูดินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐต้องให้ความสนใจ

ด้าน นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ปัญหาความเสื่อมโทรมของที่ดิน ภัยแล้ง และการแปรสภาพเป็นทะเลทราย ที่เกิดขึ้นทั่วไปอย่างต่อเนื่องและรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคและระดับประเทศ สำหรับการขับเคลื่อนและขยายกิจกรรมด้านการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนมีความท้าทายเพื่อแก้ปัญหาใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านหน่วยงานและนโยบาย ด้านเศรษฐกิจและการเงิน และด้านความรู้และเทคโนโลยี

ดังนั้น องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)จัดทำโครงการความร่วมมือกับประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้หลักการดำเนินงานแบบบูรณาการทั้งในด้านวิชาการและปฏิบัติ โดยเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงจากระดับพื้นที่สู่ระดับภูมิภาค และระดับโลกช่วยสนับสนุนให้เกิดการขยายผลและขับเคลื่อนการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนในเชิงนโยบาย ขับเคลื่อนกิจกรรมการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนให้เป็นระบบอันจะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการใช้ที่ดินของประเทศ รวมทั้งผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินโครงการจะส่งผลประโยชน์โดยรวมต่อโลก ด้านการเพิ่มผลผลิต การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การเพิ่มการกักเก็บคาร์บอน การมีน้ำเพิ่ม รวมถึงการใช้น้ำที่มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การดำเนินงานจำเป็นต้องมีการประเมินปัญหา อุปสรรค และความท้าทายในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมโทรมของที่ดิน และภัยแล้ง รวมทั้งใช้หลักหารทำงานแบบมีส่วนร่วมเพื่อหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกัน ลดความรุนแรง และฟื้นฟูผลกระทบของปัญหาความเสื่อมโทรมของที่ดิน และภัยแล้ง และการขยายผลแนวทางปฏิบัติสู่ระดับนโยบายเพื่อนสร้างการสนับสนุนในเชิงนโยบาย งบประมาณและความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพในการขับเคลื่อนกิจกรรมการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนให้เป็นระบบ อันจะเป็นการสร้างความยั่งยืนในการใช้ที่ดินของประเทศ รวมทั้งผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินโครงการจะส่งผลประโยชน์โดยรวมต่อโลก ด้านการเพิ่มผลผลิต การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การเพิ่มการกักเก็บคาร์บอน การมีน้ำเพิ่ม รวมถึงการใช้น้ำที่มีประสิทธิภาพ