ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
เกษตรน่ารู้ : การปลูกพืชผักสวนครัว
04 ต.ค. 2561

การปลูกพืชผักสวนครัว มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของชีวิตประจำวัน เพราะใช้เป็นอาหารในครัวเรือนได้ดี ถ้าปลูกมากมีเหลือก็จำหน่ายได้ และสามารถยึดเป็นอาชีพได้ ขอให้มีความยึดมั่นในธรรมชาติ มีความขยัน และอดทน การปลูกพืชผักสวนครัวมีหลักปฏิบัติ 5 ประการ ได้แก่ การเลือกเมล็ดพันธุ์ การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา การเก็บผลผลิตและการจำหน่าย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • วัสดุ/อุปกรณ์     

1) เมล็ดพันธุ์ 2) ปุ๋ยหมักชีวภาพ 3) น้ำหมักชีวภาพ/น้ำหมักจุลินทรีย์ 4) แกลบดำ 5) ฟาง 6) บัวรดน้ำ

  • ขั้นตอน/วิธีการ

1)ขั้นตอนการเตรียมดิน การเตรียมดินในการปลูกผักต้องปรับโครงสร้างดินให้มีความร่วนซุย ถ้าดินมีความหนาแน่นมาก มีการใช้มานาน ขาดธาตุอาหาร ควรจะต้องปลูกพืชจำพวกตระกูลถั่ว แล้วไถกลบฝนช่วงดอกบาน เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน

2)แปลงเพาะกล้าต้องผสมดินด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพหรือแกลบดำ อย่างละ 1 ปี๊บต่อ 2 ตร.ม. คลุกเคล้าให้เข้ากับดินทุดละเอียด หรืออาจนำมูลที่หมัก หรือมูลสัตว์ที่ผ่านการหมักทิ้งไว้ 2 ปี มาผสมกับดินจอมปลวกหรือดินขลุ่ยไผ่ หรือหน้าดินทั่วไป อัตราส่วน ใช้ดิน 1 : มูลสัตว์ 1 อัตราส่วน  มูลที่หมักหรือมูลสัตว์ทิ้งไว้ 1 ปี ใช้ดิน 2: มูลสัตว์ 1 หว่านเมล็ด คลุมด้วยฟางห่างๆ รดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอทุกวัน พอต้นกล้ามีอายุประมาณ 15-20 วัน ก็ย้ายต้นกล้าไปปลูกได้

3)แปลงผักควรมีทางเดินหรือร่องระบายน้ำเวลามีฝนตก ควรใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพประมาณ 500 กรัม ถึง 1 กก. ต่อ 1 ตร.ม. คลุกเคล้าให้ผสมดินด้วยจอบ คราด หรือรถแทรกเตอร์ขนาดเล็ก หรือจะใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพเป็นแนวยาวตลอดแปลง เพื่อปลูกผักโดยการหยอดเมล็ดเป็นแนวยาวตลอดแปลง

4)คลุมด้วยฟางให้ทั่วแปลง รดน้ำให้ชุ่ม นำต้นกล้ามาปลูกโดยการแหวกฟางให้ถึงดิน

5)ถ้าปลูกโดยการหยอดเมล็ด ให้หยอดเมล็ดก่อนคลุมฟางและรดน้ำ

6)พืชอายุยาวเกิน 2 เดือน เช่น กะหล่ำ บรอคโคลี่ ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพ 1 กำมือต่อหลุม

7)การปลูกผักสวนครัว ควรปลูกให้มีความหลากหลายชนิด และวางแผนให้มีการหมุนเวียนผลผลิตตลอดปี ต้องมีทั้งผักกินใบ โดยสลับตำแหน่งหมุนเวียนกันในช่วงแปลง พืชแต่ละชนิดมีความรากแตกต่างกัน จึงเป็นการช่วยให้ดินไม่เสื่อมคุณภาพ ผักแต่ละชนิดมีอายุการเก็บเกี่ยวไม่เท่ากัน บางชนิดมีอายุไม่ถึงเดือน บางชนิดกินเวลา 3 เดือน ถึง 1 ปี แต่ทั้งนี้ การจะจัดวางพื้นที่ปลูกในตำแหน่งที่เหมาะสมและเกิดความเกื้อกูลกันในระบบ ต้องเข้าใจอายุการเก็บเกี่ยวเสียก่อน ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้วางแผนช่วงเวลาการปลูกให้เหลื่อมกันตมความเหมาะสม

8)เทคนิคการไล่แมลง ที่น่าสนใจคือ การปลูกพืชสวนครัว เช่น ตะไคร้ กระเพรา โหระพา หรือดอกดาวเรืองรอบแปลงผัก แล้วใช้ไม้ฟาดเบาๆ ที่ต้น ทั้งเช้าและเย็น เพื่อพืชส่งกลิ่นไล่แมลงศัตรูพืช

  • การปลูกผักด้วยจุลินทรีย์หน่อกล้วย

วัสดุ/อุปกรณ์      ดินผสมด้วยปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพเงินล้าน, ฟาง, แกลบ, จุลินทรีย์หน่อกล้วยสูตรเข้มข้น

ขั้นตอน/วิธีการ    1)เตรียมดินผสมด้วยปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพเงินล้าน ยกแปลง 2)คลุมด้วยฟางหรือแกลบ 3)ราด

ด้วยจุลินทรีย์หน่อกล้วยสูตรเข้มข้น (จุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร) 4)หมักแปลงไว้ 5-7 วันเพื่อฆ่าเชื้อโรคในดิน 5)หว่านหรือปลูกพืชผัก 6)ฉีดพ่นด้วยส่วนผสมของจุลินทรีย์หน่อกล้วย 20 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ทุกสัปดาห์ 7)พริก มะเขือ ถั่วฝักยาว ผักอื่นๆ ที่ให้ดอกและผล ให้ใช้ฮอร์โมนไข่รดโคน 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่วนปุ๋ยสูตรละลายช้า สูตร 27-5-15 ใส่เพียง 1 ครั้ง หากมีเพลี้ยรบกวน ใช้สารสกัด “ดีพร้อม”

                การใช้ประโยชน์  ช้ปลูกพืชให้โตเร็ว ผลผลิตงาม ปลอดภัย และขายได้ราคาดี

  • การเสียบกิ่งมะนาวบนตอมะขวิด แก้ปัญหาการขาดแคลนมะนาวในหน้าแล้ง

มะนาวเป็นผลไม้ตระกูลส้มประเภทหนึ่งที่ปลูกกันอ่างแพร่หลาย โดยแหล่งปลูกที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัด

เพชรบุรี นครศรีธรรมราช สัราษร์ธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี สมุทรสาคร นครปฐม และเชียงใหม่ มะนาวจัดได้ว่าเป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจพืชหนึ่ง ที่ตลาดมีความต้องการสูงตลอดทั้งปี และจากอัตราการเพิ่มของพลเมืองและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มค่อนข้างสูง รวมทั้งการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีการนำมะนาวมาใช้เป็นวัตถุดิบอีกมากมาย จึงทำให้มะนาวมีบทบาทสำคัญทางการค้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี มะนาวจะมีราคาสูงกว่าปกติ คือมีราคมลูกละ 3-4 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งจะมีผลผลิตมะนาวออกสู่ตลาดน้อย ดังนั้น จึงทำให้มีผู้สนใจหันมาปลูกมะนาวนอกฤดูกันมาก

วัสดุ/อุปกรณ์      1)ตอมะขวิดที่มีลักษณะลำต้นแข็งแรง มีอายุประมาณ 1 ปี 6 เดือน 2)ยอดกิ่งพันธุ์ดีของมะนาวความยาวประมาณ 6-8 นิ้ว (เส้นผ่าศูนย์กลางใกล้เคียงกับขนาดของต้นตอ ริดใบออกให้เหลือใบไว้ 2-3 ใบ 3) มีด 4) ผ้าพลาสติก 5)ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ 6)เชือก

ขั้นตอน/วิธีทำ     1)ตัดยอกต้นตอสูงจากพื้น 3-4 นิ้ว ผ่าต้นตอให้ยาวประมาณ 1 นิ้ว 2) เฉือนโคนกิ่งพันธุ์ดีเป็นรูปลิ่มยาวประมาณ 1 นิ้ว 3)เผยอรอยผ่าบนต้นตอแล้วสอดกิ่งพันธุ์ดี จัดแนวเยื่อเจริญให้ชิดกั 4)พันด้วยผ้าพลาสติก จากนั้นนำไปใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ มัดปากถุงให้แน่น นำไปเก็บไว้ในที่ร่มประมาณ 40-50 วัน จึงเปิดถุง 5)นำออกจากถุง เลี้ยงไว้อีก 2 เดือน จึงนำลงแปลงปลูก

การใช้ประโยชน์ 1)มะนาวบนตอมะขวิดจะมีความทนต่อสภาวะอากาศต่างๆ ได้ดี เช่น ทนแล้ง ทนเค็ม

2) สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วกว่าต้นมะนาวปกติ (ต้นมะนาวปกติจะต้องปลูกไว้ประมาณ 1 ปี จึงจะเก็เกี่ยว

ผลผลิตได้) 3.ผลผลิตที่ได้มีคุฯภาพสูง (ออกลูกดกและมีน้ำมาก) 4.โรคพืชน้อยลง เนื่องจากใบมะขวิดมีกลิ่

มาก ไม่มีแมลงมารบกวน 5.ออกผลนอกฤดูกาล ทำให้จำหน่ายได้ราคาสูง 6.อายุของการปลูกแต่ละรุ่นอยู่ได้นาน

กว่า 7-8 ปี (มะนาวที่ปลูกตามปกติที่ไม่ได้ใช้วิธีการเสียบกิ่งพันธุ์จะมีอายุแค่ 2-3 ปีเท่านั้น)

สำหรับเกษตรกรทั่วไปที่สนใจการเสียบกิ่งมะนาวตอมะขวิด การผลิต กิ่งพันธุ์นี้ใช้เวลาเพียง 2-3 เดือน ก็สามารถนำกิ่งพันธุ์จสกการเสียบกิ่งไปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมได้ (ราคากิ่งพันธุ์ต้นละประมาณ 200 บาท)

ที่มา : สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...