ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
เลี้ยง หมา-แมว ต้องไปขึ้นทะเบียนกับท้องถิ่น
11 ต.ค. 2561

ร่างกฎหมายฉบับใหม่ ได้กำหนดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หมาและแมว” ต้องนำไปแจ้งจดทะเบียนไว้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ้าละเลยจะมีความผิดตามกฎหมาย  

อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายฉบับนี้ เพียงแต่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะได้พิจารณาและลงมติ ก่อนจะตราเป็นกฎหมายบังคับใช้ !! 

ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... เป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ที่มีผลบังคับไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2557 โดยได้มีการเพิ่มเติมปรับปรุงใหม่ เพื่อประโยชน์ในการจัดสวัสดิภาพสัตว์และความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์ รวมถึงการป้องกันแก้ไขปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ กลายเป็นสัตว์จรจัด

โดยในร่างกฎหมายใหม่นี้ ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล อบต. กรุงเทพมหานคร และ เมืองพัทยา หรือท้องถิ่นพิเศษอื่น  มีอำนาจหน้าที่จัดทำ เครื่องหมายประจำตัวสัตว์ รวมถึงมาตรการในการขึ้นทะเบียนสัตว์ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ซึ่งรัฐมนตรีประกาศกำหนด  ตามบริบทของแต่ละท้องถิ่น

ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว  อปท.จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเจ้าของสัตว์ได้ แต่ต้องไม่เกินอัตราที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และในกรณีที่เจ้าของสัตว์ทำผิดกฎหมายและเป็นโทษปรับ ให้อธิบดีหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นเปรียบเทียบปรับได้ ถ้าผู้ต้องหาจ่ายเงินค่าปรับ ภายใน 15 วัน ให้ถือว่าคดีเลิกกัน แต่ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมจ่ายเงินค่าปรับในระยะเวลาที่กำหนด ให้ดำเนินคดีต่อไป

อัตราค่าธรรมเนียม (1) ค่าคำร้องขอขึ้นทะเบียน ฉบับละ 50 บาท (2) ค่าสมุดประจำตัวสัตว์ ฉบับละ 100 บาท  และ (3) ค่าเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ ตัวละ 300 บาท หากว่าเจ้าของไม่นำสัตว์เลี้ยงไปขึ้นทะเบียน จะมีโทษปรับไม่เกิน 25,000 บาท  ส่วนโทษอื่นๆ เช่น การทารุณกรรมสัตว์ การไม่จัดสวัสดิภาพให้สัตว์ การปล่อย ละทิ้งสัตว์ให้พ้นไปจากการดูแลโดยไม่มีเหตุอันสมควร ยังคงเป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...