ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
คณะอนุกรรมการเพื่อช่วยดำเนินการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ
30 ต.ค. 2561

      คณะอนุกรรมการเพื่อช่วยดำเนินการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ท. เปิดเวทีรับฟังความเห็น“ร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต”ชูมาตรการเข้ม หัวหน้าหน่วยงานรัฐต้องร่วมรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของผู้ใต้บังคับบัญชา

      วันนี้ (วันอังคารที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๑) เวลา ๑๐.๐๐ น. คณะอนุกรรมการเพื่อช่วยดำเนินการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ....  โดยมีพลอากาศเอก วีรวิท คงศักดิ์ กรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และประธานอนุกรรมการเพื่อช่วยดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๓) แห่งพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นผู้เปิดการประชุมฯ และมีพันตำรวจโท วันนพ สมจินตนากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยมีส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ณ ห้องประชุม ๑ ชั้น ๓ สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
      สำหรับในการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อกำหนดให้มีมาตรการและกลไกเพื่อการส่งเสริมการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ โดยร่างกฎหมายดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
      ๑. มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในฝ่ายบริหารและกำหนดหลักเกณฑ์ใช้บังคับกับหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงต่อการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกำหนดมาตรการที่จำเป็นในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
      ๒. มีการกำหนดมาตรการและกลไกในการควบคุม กำกับและติดตาม การบริหารจัดการในภาครัฐเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตในภาครัฐ ให้มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
      ๓. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการประเมินความเสี่ยงของกระบวนการบริหารงานที่อาจก่อให้เกิดการทุจริตและประพฤติมิชอบและให้มีการตรวจสอบและประเมินผลเพื่อปรับปรุง มาตรการป้องกันความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง
      ๔. กำหนดให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม กวดขันวินัย และกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างมีประสิทธิผลและต่อเนื่อง และที่สำคัญหากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ย่อมเป็นเหตุให้ได้รับโทษทางวินัย และร่วมรับผิดในความเสียหายทางแพ่งที่เกิดขึ้น กับทางราชการจากการกระทำของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาและอาจต้องถูกดำเนินคดีอาญาหรือวินัย โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือ คณะกรรมการ ป.ป.ท. เป็นต้น
      ทั้งนี้ ร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ได้มีการนำหลักการที่จำเป็นและสำคัญในมาตรการป้องกันและแก้ไขการทุจริตและประพฤติมิชอบตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๙/๒๕๕๗ เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขการทุจริตและประพฤติมิชอบ ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ มาบัญญัติไว้ และได้มีการเพิ่มมาตรการเสริมให้เข้มงวดกวดขันยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่จะต้องรับผิดทั้งทางวินัยและอาญา และความเสียหายทางแพ่งด้วย หากมีการทุจริตเกิดขึ้นโดยไม่ได้มีมาตรการป้องกันปัญหาการทุจริต อันจะส่งผลให้ต่อไปนี้ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐจะนิ่งเฉยเหมือนที่เคยปฏิบัติในอดีตมิได้ เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้เป็นความผิดหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐจะต้องรับทราบ เข้าใจในหลักการและความสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...