ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
เกษตรน่ารู้ ; การปลูกพืชสวน
01 พ.ย. 2561

ในการปลูกพืชสวนหรือไม้ยืนต้นนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ผลไม้หลายชนิดในบ้านเราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ในการปลูกไม้ผลให้ได้คุณภาพนั้น จะต้องหมั่นเอาใจใส่ดูแล พรวนดิน ใส่ปุ๋ย รดน้ำ อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช

นอกจากนี้ ยังต้องอาศัยเทคนิควิธีการต่าง ในการดูแลรักษา เพื่อให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพดี ทางศูนย์ปราชญ์ชาวบ้านจึงได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าว ให้แก่เกษตรกร ด้วยการใช้วัสดึอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น โดยมีขั้นตอนและวิธีการ สรุปได้ดังนี้

วัสดุ/อุปกรณ์     

1. หญ้าแห้ง ฟางแห้ง ใบไม้แห้ง 2. น้ำหมักสะเดา หรือสมุนไพรป้องกันโรคแมลง 3. ปุ๋ยหมักชีวภาพ 4. เครื่องตัดหญ้า 5. มีด หรือกรรไกตัดแต่งกิ่ง

ขั้นตอน/วิธีการ  

1. การปลูกพืชยืนต้น เช่น ไม้ผล ควรรองก้นหลุมด้วยอินทรียวัตถุ หญ้าแห้ง ฟางแห้ง ใบไม้แห้ง ที่หาได้ และใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ 1 กก. คลุกเคล้าผสมกับดินที่ขุดออกมา คลุมด้วยหญ้าแห้ง รดน้ำสกัดชีวภาพ ทิ้งไว้ 5-7 วัน จึงปลูกได้ 2. ควรรดน้ำผสมน้ำสกัดชีวภาพพืชทุกๆ 7 วัน 3. ควรฉีดพ่นน้ำหมักสะเดาหรือสมุนไพรป้งกันโรคแมลง สัปดาห์ละครั้ง 4. ไม้ผลที่โตแล้ว ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพบริเวณเชิงพุ่ม อย่างน้อยตารางเมตรละครึ่งกิโลกรัม โดยมีหญ้าแห้ง ใบไม้แห้งคลุมดิน รดน้ำผสมน้ำหมักสกัดชีวภาพ อย่างน้อยเดือนละครั้ง

5. ไม่ใช้ยาปราบวัชพืช แต่ใช้เครื่องตัดหญ้า ปล่อยให้คลุมดิน จะเป็นประโยชน์มาก 6. ควรตัดแต่งกิ่ง หลังจาก

เก็บเกี่ยวผลไม้ 7. เมื่อไม้ผลเริ่มผลิดอก ให้ใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ รดน้ำไปอบ่างต่อเนื่อง อย่าได้ขาด 8. การให้น้ำตามท่อ เช่น น้ำหยดสปริงเกิล จะสะดวกกว่าการผสมน้ำด้วยน้ำสกัดชีวภาพ 9. สังเกตดินดี ปุ๋ยดี ใบพืชใบอ่อน หนอนไม่กิน และจะกินใบแก่ 10. ไม้ผลบางชนิดจะให้ผลตลอดปี ถ้าดินดี ปุ๋ยดี

  • การเพิ่มผลผลิตในผลไม้

วัสดุ/อุปกรณ์     

1. ปุ๋ยหมักชีวภาพ 2. ฮอร์โมนไข่ 3. ปุ๋ยนมวัว 4. ปุ๋ยสูตรละลายช้า

ขั้นตอน/วิธีการ  

1. ขุดหลุมขนาด 50x50x50 ซม. (กว้างxยาวxลึก) 2. ผสมดินด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพเงินล้าน 3.

เมื่อไม้ผลเริ่มแข็งแรงแล้ว รดโคนต้นด้วยส่วนผสมของฮอร์โมนไข่ 5 ซีซี ปุ๋ยนมวัว 10-20 ซีซี น้ำ 20 ลิตร สัปดาห์ละครั้ง 4. ใส่ปุ๋ยละลายช้า สูตร 27-5-15 ต้นละ 1 กำมือ 5. คลุมด้วยฟางหญ้าแห้ง 6. ฉีดพ่นต้นใบด้วยส่วนผสมของสารสกัดทิพย์

รุ่งเรือง 1 ซีซี สารสกัดดีพร้อม 2-5 ซีซี ฮอร์โมนไข่ซูเปอร์ 5 ซีซี สารสกัดทรัพย์ไพศาล 10 ซีซี และน้ำ 20 ลิตร เพื่อป้องกันโรคและศัตรูอื่นๆ10 วันต่อครั้ง        

7. การเปิดจาดอก เมื่อใกล้จะออกดอก ควรเปิดตาดอกด้วยส่วนผสมของฮอร์โมนไข่ซูเปอร์ 10 ซีซี เครื่องดื่มชูกำลัง 150 ซีซี และน้ำ 20 ลิตร พ่นทุกๆ 7 วัน อย่างน้อย 2 ครั้ง 8. เติมปุ๋ยละลายช้า สูตร 27-5-15 ต้นละ 2-3 กำมือ 9. คลุมด้วยฟางหรือปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพเงินล้าน 10. รดโคนต้นด้วยส่วนผสมทรัพย์ไพศาล 10 ซีซี ฮอร์โมนไข่ซูเปอร์ 10-20 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร สัปดาห์ละครั้ง 11. ถ้าฝนตกช่วงจะออกดอก อาจจะแตกใบอ่อน ให้ป้องกันไนโตรเจนด้วยสารละลายโบรอน (ส่วนผสมโยรอน 1 ขีด แคลเซียมไนเตรท 15-0-0 = 4 ขีด และน้ำ 5 ลิตร) ผสมกับปุ๋ยละลายช้า สูตร 27-5-15 = 2 ช้อนแกง และน้ำ 20 ลิตร

การใช้ประโยชน์ 

ไม้ผลชนิดต่างๆ รวมทั้งพืชที่มีอายุ 2-3 ปี เช่น เสาวรส สามารถเพิ่มผลผลิตได้

  • การห่อผลผลิตเพื่อเพิ่มสีสันสำหรับผลไม้

วัสดุ/อุปกรณ์   

1. ถุงพลาสติกสามสี โดยแบ่งเป็นสีเข้ม สีอ่อนขนาดกลาง และสีขาว ถุงกระดาษปูน ถุง

กระดาษหนังสือพิมพ์ 2. เชือกหรือตอก 3. มีด

ขั้นตอน/วิธีการ  

1. เลือกผลผลิตที่จะห่อ เช้น มะม่วง ให้เลือกขนาดผลเต็มวัย ใกล้แก่ 2. เจาะถุงพลาสติกให้

เป็นรูก้นถุง 2-3 รู 3. เลือกสีถุงที่ต้องการให้กับผลผลิตว่าเน้นสีอะไร

การใช้ประโยชน์             

1. สามารถเพิ่มสีสันให้กับผลผลิตตามต้องการ เช่น ถ้าใช้ถุงพลาสติกสีทึบน้ำเงิน ผลที่ได้กับมะม่วงจะได้สีเหลือง

ปนแดง 2. ช่วยลดการทำลายของแมลงที่จะเข้าทำลายผลไม้ใกล้สุกได้ดี 3. ทำให้ราคาผลผลิตได้ดี 4. ทำให้ผลผลิตที่ได้ในฤดูกาลใหม่ไม่สมบูรณ์ เหมือนต้นปลูกใหม่

  • การปลูกไม้ผลให้เอนนอนในแนวราบแทนการเติบโตในแนวดิ่ง

วัสดุ/อุปกรณ์                     

1. จอบ 2. พลั่ว 3. มีด 4. เชือก

ขั้นตอน/ วิธีทำ               

1. ขุดหลุม รองก้นหลุมด้วยดินผสมปุ๋ยคอกเหมือนปลูก 2. ตั้งต้นไม้ที่ปลูกให้เอียงประมาณ 45 องศา

ปักไม้นำ 1 อัน ปักไม้บังคับหัวท้ายอย่างละ 1 อัน หรือเพิ่มไม้ที่ใช้ปักได้ตามสภาพความยาวของต้น 3. คอยดูแลความยาวของต้นตามต้องการ ถ้ายอดตั้งขึ้นก่อนที่จะได้ขนาด ให้ดัดบังคับให้เอียงตามต้องการ ส่วนยอดที่แตกออกกลางต้นปล่อยไว้

การใช้ประโยนชน์           

1. ทำให้การบำรุงรักษายอดที่แตกใหม่และผลผลิตจากโรคแมลงได้สะดวก 2. ช่วยการทำงานในเรื่อง

การขยายพันธุ์ 3. ทำให้ผลผลิตไม่เสี่ยงกับการร่วงหล่นจากลมพัด

  • การปลูกยางพารา

วัสดุ/อุปกรณ์                       

1. พื้นที่สำหรับปลูก 2. ต้นกล้ายาง 3. ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหินฟอสเฟต 4. จอบ เสียม สำหรับขุดหลุม 5.

เครื่องจักรไถพรวนดิน

ขั้นตอน/วิธีทำ

            1.วิธีปลูกยาง                 

-ไถเตรียมดินก่อนประมาณ 2-3 รอบ

                -รองก้นหลุมต้นละประมาณ 1 กำมือ

                -เอามือกดหลุมให้แน่น ใส่ปุ๋ยห่างจากต้นประมาณ 30 เซนติเมตร

-อายุ 1 ปี ใส่ปุ๋ยห่างจากต้น 50 เซนติเมตร อายุ 2 ปี ใส่ปุ๋ยห่างจากต้น 100 เซนติเมตร อายุ 3 ปี ใส่ระหว่างแถว

  กลางต้นขุดหลุมดีที่สุด

-ต้นยางสูง 3 เมตร หรือ 350 เซนติเมตร ตัดยอดให้มันแตกยอด ถ้าไม่ตัดยอด จะไม่ค่อยมีน้ำยาง

-การตัดยอดจะทำให้ยางแตกกิ่งคลุมพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้น ให้น้ำยางมีคุณภาพ

2.วิธีการทำแผ่นยาง        

2.1 น้ำยาง 3 ลิตร ต่อน้ำ 2 ลิตร

            2.2 น้ำกรด  1 กระป๋อง ต่อน้ำ 18 ลิตร แล้วเทลงใส่ตะแกรงน้ำยาง 1 กระป๋องนม แผ่นยางจะมีคุณภาพ ไม่เหนียวติดมือ ได้น้ำหนักดี ถ้าผสมน้ำกรดมากจะได้น้ำหนักน้อย เพราะมันจะร้อนและระเหยหมด เนื่องจากน้ำกรดจะกัดยาง ทำให้แผ่นยางขาด

            3.วิธีการอื่นๆ เช่น          

3.1 การนำแพะมาเลี้ยงในสวนยาง เนื่องจากยางพาราเป็นไม้ยืนต้น ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะได้ผลผลิตในรอบแรก จึงนำแพะมาเลี้ยงในสวนยางพารา ซึ่งจะช่วยควบคุมวัชพืชและเพิ่มปุ๋ยอินทรีย์ในสวนยางพารา มูลแพะช่วยบำรุงดินและทำให้น้ำยางเข้มข้น สามารถกีดยางกลางวันได้

                3.2 การตัดยอดยางพาราเพื่อเร่งการเจริญเติบโต

                                - ปลูกยางพารามีอายุตั้งแต่  1 ปี

                                - ความสูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 3 เมตร

                                - ตัดยอดช่วงเริ่มฤดูฝน (พฤษภาคม-มิถุนายน) หรือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม

การใช้ประโยชน์             

1. เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว 2. ช่วยส่งเสริม อนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. เพิ่มพื้นที่ป่า อากาศมีลักษณะชื้น ร่มเย็น ทำให้ปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อการประกอบอาชีพเกษตร

…………………………………………………………..

ที่มา : สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

 

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...