กรมบังคับคดีร่วมกับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามบันทึกความตกลงการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี และนางสาวยุภาวรรณ ศิริชัยนฤมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนามบันทึกความตกลงการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุมคชสาร 2 ชั้น 3 อาคารกรมบังคับคดี
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างกรมบังคับคดี และบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมทรัพย์สินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบรรดาเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย และประชาชนทั่วไปจากการจำหน่าย จ่าย โอนทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ การส่งข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วย
ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน มีความสะดวกรวดเร็ว ลดการใช้เอกสาร และเป็นการบูรณาการ และสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน การลงนามบันทึกความตกลงการรับ – ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในครั้งนี้ ทั้ง2 หน่วยงานจะได้ร่วมกันกำหนดรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะของระบบคอมพิวเตอร์ และรูปแบบข้อมูลที่รับ-ส่ง ระบบงานที่เกี่ยวข้อง การจัดให้มีการควบคุมภายใน การจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่กรมบังคับคดีจะได้รับจะเป็นเฉพาะข้อมูลของผู้ถือหลักทรัพย์ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น และเป็นข้อมูลที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์มีอยู่ การรักษาข้อมูลที่ได้รับระหว่างกันให้เป็นความลับ นอกจากนี้ จะได้ร่วมกันกำหนดพิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างกัน เพื่อการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ การลงนามบันทึกความตกลงการรับ – ส่งข้อมูลดังกล่าวเป็นการบูรณาการข้อมูล และการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไปตามตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี นโยบายไทยแลนด์ 4.0 นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี ของกรมบังคับคดี ในการเป็นศูนย์ข้อมูลกลางเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ (Debtor Data Center) และให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป็นหน่วยงานทางทะเบียนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับคดี เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง