ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
กสม. ย้ำผู้ติดเชื้อเอชไอวีต้องไม่ถูกกีดกันสิทธิการเข้าถึงการจ้างงานทั้งในหน่วยงานรัฐ/เอกชน แนะรัฐบาลเร่งส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ - ป้องกันการเลือกปฏิบัติ
26 พ.ย. 2561

นางฉัตรสุดา จันทร์ดียิ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านสิทธิผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก การศึกษา และการสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่า ถูกเลือกปฏิบัติในการสมัครเข้าทำงานเนื่องจากเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus : HIV) จากการตรวจสอบปรากฏข้อเท็จจริงว่า หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างกำหนดให้การตรวจหาเชื้อเอชไอวีเป็นเงื่อนไขในการพิจารณารับเข้าทำงาน ทั้งที่ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกและศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ยืนยันว่าการติดเชื้อมีได้เพียง 2 ทาง คือ 1. การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย และ 2. การใช้เข็มฉีดยา (เสพติด) ร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันมียาต้านไวรัสที่ให้ผลการรักษาเป็นอย่างดี ผู้ติดเชื้อเอชไอวีจึงสามารถมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถดำรงชีวิตหรือทำกิจกรรมได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ดังนั้น สถานะการเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีจึงไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อการทำงานไม่ว่าในตำแหน่งใด

นางฉัตรสุดา จันทร์ดียิ่ง ระบุว่า เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับการคุ้มครองสิทธิในการทำงานและไม่ถูกเลือกปฏิบัติจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อันสอดคล้องกับหลักความเสมอภาคและความเท่าเทียมของบุคคลที่ได้รับการรับรองไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights – ICCPR) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant  on Economic, Social and Cultural Rights – ICESCR) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รวมทั้งแนวปฏิบัติระหว่างประเทศว่าด้วยเชื้อเอชไอวี/เอดส์และสิทธิมนุษยชน (International Guidelines on HIV/AIDS and Human Rights) เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ จึงขอเสนอแนะและเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกแห่งพิจารณายกเลิก ปรับปรุง แก้ไข กฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือเงื่อนไขการตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนรับเข้าทำงานในทุกตำแหน่ง และขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเชื้อเอชไอวีต่อไป เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีซึ่งสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติร่วมกับคนทั่วไป ได้มีสิทธิในการทำงานและการเข้าถึงการจ้างงานโดยปราศจากเงื่อนไขในที่สุด

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...