ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
‘กฤษฎา’เดินหน้าลดต้นทุนการเกษตร ดึงสหกรณ์อำเภอผลิตปุ๋ยใช้เองจำหน่าย
28 ก.พ. 2562

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังมอบนโยบายในการประชุมชี้แจงแนวทางการส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิต ผ่านสถาบันเกษตรกร ภายใต้โครงการปุ๋ยผสมใช้เอง ผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยผสมเองที่มีธาตุอาหารพืชที่เหมาะสมตามค่าวิเคราะห์ดินแต่ละพื้นที่ และตรงกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ 462 แห่งจำนวน 900 คน เมื่อเร็วๆ นี้ว่า

ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ เร่งหาวิธีลดต้นทุนปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะต้นทุนเรื่องปุ๋ย ซึ่งจะต้องเร่งรัดจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรได้ใช้ในราคาที่ถูกลง 30 %เนื่องจากปัจจุบันราคาปุ๋ยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันเกษตรกรส่วนใหญ่ยังใช้ปุ๋ยไม่ถูกต้องตามความเหมาะสมของสภาพพื้นดิน ส่งผลทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่ามาตรฐาน นั้น รัฐบาลจึงมีแนวคิดที่จะช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต โดยการสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการผลิตปุ๋ยผสมใช้เองตามค่าการวิเคราะห์ดิน และจำหน่ายให้สมาชิกและเกษตรกรในแต่ละพื้นที่  

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดทำโครงการปุ๋ยผสมใช้เองฯ โดยให้สหกรณ์การเกษตรในระดับอำเภอผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม  และผลักดันให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นตัวกลางในการสั่งซื้อแม่ปุ๋ยจากบริษัทนำเข้าในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาด และกระจายต่อให้กับสหกรณ์การเกษตรในแต่ละจังหวัดนำแม่ปุ๋ย ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักพืช คือ N P K สูตรเข้มข้น เป็นวัตถุดิบเพื่อนำไปผสมและผลิตปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือสูตรที่เกษตรกรต้องการใช้จำหน่ายให้กับสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไป

นอกจากนี้ กรมพัฒนาที่ดินจะวิเคราะห์ข้อมูลดินของแต่ละพื้นที่ เพื่อกำหนดสูตรปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับสภาพดินให้สหกรณ์นำไปผลิต รวมทั้งกรมส่งเสริมการเกษตรให้ความรู้แก่เกษตรกรถึงข้อดีในการผลิตปุ๋ยใช้เอง ซึ่งจะมีธาตุอาหารที่เหมาะสมกับการปลูกพืชแต่ละชนิด และส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตและบำรุงดินไม่ให้เสื่อมโทรม และกรมวิชาการเกษตรให้คำแนะนำตามหลักวิชาการการผสมปุ๋ยเพื่อให้ได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพมาตรฐาน

และจะมีการตรวจสอบปุ๋ยที่สหกรณ์ผลิตขึ้น ก่อนจะออกใบอนุญาตผลิตและจำหน่ายปุ๋ยให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ  เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่จะเลือกซื้อไปใช้ สำหรับเงินทุนในการผลิตปุ๋ยนั้น ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดสรรวงเงินสินเชื่อ 1,300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโดยให้สหกรณ์กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี

“การประชุมในครั้งนี้ เพื่อเชิญชวนสหกรณ์ทั่วประเทศ กว่า 400 แห่ง มาร่วมกับขับเคลื่อนการลดต้นทุนการผลิต โดยใช้วิธีการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเอง โดยให้ 4 เสือ ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และกรมพัฒนาที่ดิน ลงพื้นที่ร่วมกันให้ความรู้วิธีการผสมปุ๋ยให้ตรงกับความต้องการของดินบริเวณนั้น โดยมีเป้าหมาย 1 แสนตัน ขณะนี้มีสมาชิกสหกรณ์แจ้งความต้องการปุ๋ยผสมใช้เอง รวม 70,000 ตัน ซึ่ง มี.ค.จะเริ่มลงไปทำความเข้าใจกับเกษตรกร และเม.ย. จะเริ่มฤดูกาลผลิต” นายกฤษฎา กล่าว

สำหรับแนวทางเพิ่มเติมในการลดต้นทุนการทำเกษตร ได้แก่ การทำเกษตรระบบโควตา โดยกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ร่วมกันสำรวจความต้องการสินค้าเกษตร พื้นที่ไหนจะปลูกอะไรต้องดูตลาด เพื่อกำหนดโควตาตามความต้องการของตลาด นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 35 ล้านไร่ ที่จัดสรรให้เกษตรกร 7 ล้านครัวเรือนว่า พื้นที่ใดไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ให้เข้าไปปรับปรุงทำเป็นแปลงใหญ่ โดยเชิญภาคเอกชนและสถาบันการศึกษามาร่วมกันบริหารจัดการปรับปรุงดินให้เหมาะสมกับพืชในพื้นที่นั้นๆ ส่วนพื้นที่การเกษตรที่รกร้างหรือเจ้าของที่ดินไม่ได้ทำการเกษตรเนื่องจากอายุมาก ลูกหลานไม่ทำกิจการต่อ ให้กรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจหาวิธีการช่วยเหลือ โดยใช้ Young Smart Farmer เข้าไปบริหารจัดการ เป็นการจ้างแรงงานซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตได้

ด้านนายพิเชษฐ์  วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด แจ้งรายละเอียดของโครงการนี้ไปยังสหกรณ์ต่างๆ และมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 462 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีสหกรณ์ 242 แห่ง ได้แจ้งปริมาณความต้องการแม่ปุ๋ยแล้วจำนวน 67,609.55 ตัน เพื่อนำไปผลิตปุ๋ยผสมใช้เองจำหน่ายให้กับแก่สมาชิกและเกษตรกรทั่วไป จำนวน 161,462 ราย

ทั้งนี้ หากเกษตรกรปรับเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยที่มาจากค่าวิเคราะห์ดินที่เหมาะสม คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนปัจจัยการผลิตปุ๋ยให้กับเกษตรกรได้ประมาณปีละ 2,000 บาท/ตัน และสามารถลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยผสมใช้เองของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 228.38 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้หากมีสหกรณ์เห็นประโยชน์ที่จะช่วยสมาชิกและเกษตรกรลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยผสมเอง ก็สามารถแจ้งความประสงค์และแจ้งปริมาณความต้องการแม่ปุ๋ยได้เพิ่มเติม โดยติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดและในอนาคตกรมฯคาดหวังว่าสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จะสามารถนำข้อมูลจากการเก็บค่าวิเคราะห์ดินของสมาชิกเป็นรายแปลงมาเป็นข้อมูลในการวางแผนจัดหาปุ๋ยหรือบริการผสมปุ๋ยที่เหมาะกับสภาพดินตามค่าวิเคราะห์ดินและเหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดเพื่อจำหน่ายให้แก่สมาชิกและเกษตรกรต่อไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...