ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
บอร์ดดีอี ไฟเขียวจัดตั้งสถาบันบิ๊กดาต้าภาครัฐ
10 พ.ค. 2562

บอร์ดดีอี ไฟเขียวจัดตั้งสถาบันบิ๊กดาต้าภาครัฐ ใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ติดปีกบริการภาครัฐและเสริมแกร่งเศรษฐกิจไทย

นางสาวอัจฉรินทร์  พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานฯ โดยได้มีการพิจารณาเรื่องหลักๆ 3 ประเด็น กล่าวคือ ตามที่นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2562 ซึ่งจะเป็นกรอบนโยบายในการพัฒนาให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุดว่าด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์อย่างเท่าเทียม การสนับสนุนให้เกิดระบบบริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำธุรกรรมและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลเพื่อรองรับภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และให้ประชาชนรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลต่างๆ มุ่งเน้นการเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ให้เกิดการเรียนรู้และนำไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมต่อไป

“กระทรวงดิจิทัลฯ มุ่งเป้าในการพัฒนาคลังข้อมูลดิจิทัลให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะภาครัฐจะต้องเร่งผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากคลังข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้สามารถบูรณาการและให้บริการข้อมูลข้ามหน่วยงานได้อย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน และเป็นข้อมูลในการพัฒนาประเทศต่อไป” ปลัดกระทรวงฯ กล่าว

โดยประเด็นสำคัญเรื่องแรกคือ การจัดตั้งสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (Government Big Data Institute) และบอร์ดดีอีพิจารณาการจัดตั้งสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ โดยปรับรูปแบบของ Service Delivery Unit ให้เป็น Business Unit ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเกิดกลไกการวิเคราะห์ขนาดใหญ่ซึ่งจะช่วยสนับสนุนในเรื่องต่างๆ อาทิ การบริหารงบประมาณ การให้บริการสาธารณะตรงตามความต้องการของประชาชน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562

ประเด็นที่สอง จะพิจารณาเรื่อง ความสอดคล้องของแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (พ.ศ. 2561– 2564) กับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งประกาศและมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2562 จากที่คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบหลักการแผนฯ แล้วเมื่อคราวการประชุมครั้งที่  2/2561 สำหรับการจัดทำแผนแม่บทก็ได้มีการปรับปรุงและอ้างอิงมาจากแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 20 ปี และแผนปฏิบัติการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 5 ปี ที่รวมประกาศเป็นนโยบายและแผนระดับชาติแล้ว ก้าวต่อไป คือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จะประสานงานขับเคลื่อนแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล พ.ศ. 2561–2564 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ประเด็นที่สาม บอร์ดดีอี เห็นชอบการปรับแผนงบประมาณรายจ่ายโครงการเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประจำปี 2562 ซึ่งสำนักงาน กสทช.เสนอปรับแผนงบประมาณรายจ่ายโครงการ ประจำปี 2562 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ ปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินโครงการศึกษาเพื่อกำหนดรูปแบบและหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่รองรับการให้บริการ 5G จากเดิมจัดจ้างที่ปรึกษา เป็น ความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัย Calmers University of Technology ภายในกรอบวงเงินเดิมที่ได้รับอนุมัติ และปรับเพิ่มโครงการระบบตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายจากการออกอากาศทางวิทยุและโทรทัศน์ระดับภูมิภาค วงเงิน 95.010 ล้านบาท ซึ่งการปรับแผนดังกล่าวนี้ อยู่ภายใต้กรอบวงเงินเดิมที่ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นของบอร์ดดีอี เมื่อคราวการประชุมครั้งที่ผ่านมา (ครั้งที่ 5/2561)

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...