ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
สถาบันเวชศาสตร์ฯ ผู้สูงอายุ แนะ 11 วิธีป้องกันสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ
05 มิ.ย. 2562

     สถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์  เผยภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ หากพบความผิดปกติต้องรีบมาพบแพทย์ บางส่วนสามารถแก้ไขและจำนวนมากชะลอโรคได้ถ้าพบระยะแรก พร้อมแนะ 11 วิธีป้องกันไม่ให้สมองเสื่อม

นายแพทย์ณัฐพงศ์  วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวว่า อาการสมองเสื่อมคือภาวะที่มีการสูญเสียความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ การรับรู้ ความเข้าใจ การใช้ภาษา ทิศทาง การใช้เหตุผลและการแก้ปัญหา มีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมและบุคลิกภาพ โดยมีผลกระทบต่อความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจำวันและการเข้าสังคม และสมองเสื่อมเป็นภาวะที่อยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้นตามภาวะสังคมสูงวัย ในอดีตเรามักเชื่อกันว่าอาการหลงลืมเป็นเรื่องปกติของคนสูงอายุเป็นการหลงลืมตามวัย แต่ความเชื่อดังกล่าวไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด ยังมีผู้สูงอายุส่วนหนึ่งที่มีอาการสมองเสื่อม หากญาติหรือคนใกล้ชิดให้ความสำคัญในการสังเกตความผิดปกติและรีบนำมาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย บางส่วนสามารถแก้ไขได้และจำนวนมากชะลอโรคได้ถ้าพบในระยะแรก


     นายแพทย์สกานต์  บุนนาค  ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  สาเหตุของโรคสมองเสื่อมเกิดจากหลายปัจจัยที่สำคัญ เช่น การเสื่อมของเซลล์สมอง  ขาดวิตามินบี 1 หรือ บี  12  ติดเชื้อในสมอง การแปรปรวนของระบบเมตาโบลิกในร่างกาย เนื้องอกในสมอง เป็นต้น  ซึ่งชนิดของโรคสมองเสื่อมที่พบมากที่สุดคือ อัลไซเมอร์ และโรคหลอดเลือดสมอง อย่างไรก็ตามแม้สาเหตุบางอย่างของภาวะสมองเสื่อมจะยังไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด เช่น สมองเสื่อมอัลไซเมอร์ที่เกิดจากพันธุกรรม แต่พบว่าการป้องกันสามารถลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม ได้แก่

1) เลือกอาหารที่เหมาะสม รับประทานให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง 

2) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 

3) ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์ 

4) หลีกเลี่ยงกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง 

5) ไม่สูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่ๆ มีควันบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า 

6) พยายามฝึกสมองให้คิดบ่อยๆ เช่น อ่านและเขียนหนังสือบ่อยๆ เล่นเกมส์ตอบปัญหา นับเลขถอยหลัง 

7) หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 - 5 ครั้ง 

8) พบปะพูดคุยกับผู้อื่นบ่อยๆ หากิจกรรมเพื่อคลายเครียด เช่น เข้าชมรมผู้สูงอายุ เป็นจิตอาสาในโรงพยาบาล 

9) ตรวจสุขภาพประจำปี 

10) ถ้ามีโรคประจำตัวต้องติดตามการรักษาเป็นระยะ นอกจากรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์แล้วต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมอาการของโรคร่วมด้วย โดยเฉพาะโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง 

11) ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุต่อสมอง โดยเฉพาะการหกล้ม 

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...