ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท่องเที่ยว ย้อนกลับ
บ้านยายดา แหล่งเที่ยวเกษตรสมัยใหม่ กินผลไม้กระหน่ำกับผลไม้บุฟเฟ่ต์
07 ต.ค. 2562

        เกษตรกรรมถือเป็นหนึ่งอาชีพสำคัญของประเทศไทยที่อยู่คู่มาอย่างยาวนานและด้วยปัจจุบันประเทศได้มีการเปิดกว้างมากยิ่งขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมีความสนใจและอยากมาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนกันมากขึ้น แน่นอนด้วยวิถีชุมชนของไทยที่ผูกโยงอยู่กับเกษตรกรรมทำให้ไม่สามารถมองข้ามอาชีพเกษตรกรไปได้เลยเหมือนกับชุมชนบ้านยายดา จังหวัดระยองที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแนวใหม่ที่น่าไปสัมผัสซักครั้งหนึ่ง           

          หากถามว่าชุมชนบ้านยายดา ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองมีอะไรที่น่าสนใจ ก็คงไม่แตกต่างจากชุมชนทั่วไปของบไทยที่มีวิถีชุมชนอันเป็นเอกลักษณ์ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ถือสิ่งพิเศษไม่เหมือนใครก็คงเป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกและได้รับงบประมาณจากกรมการพัฒนาชุมชน ให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว ปี 2560  บ้านยายดาอีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ  สิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีสวนผลไม้มากมาย หลายสิบสวน  ในหนึ่งปี จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมสวนผลไม้ มากมาย หลายหมื่นคนในแต่ละสวน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับน่าสนเป็นอย่างมาก และยังเป็นยังมีสวนยายดา คือ คุณบุญชื่น โพธิ์แก้ว หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ป้าชื่น” แต่ตั้งชื่อสวนว่า "สวนยายดา" เหตุที่ได้ใช้ชื่อนี้เป็นเพราะ ในปี พ.ศ.2545 ป้าชื่นได้เริ่มทำสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวนหลังบ้านขึ้น สวนยายดาจึงได้เข้าร่วมโครงการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตำบลตะพง โดยได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงาน ททท. ภาคกลางเขต 4 ระยอง

         เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นอีกการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นทางด้านการเรียนรู้วิถีเกษตรกรรมของชาวชนบท โดยเน้นการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวในการดำเนินกิจกรรมให้เกิดการเรียนรู้ด้านการเกษตรและวิถีการดำรงชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี และเป็นการนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดการเรียนรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ก่อให้เกิดรายได้ต่อชุมชน และตัวเกษตรกร การท่องเที่ยวเชิงเกษตร จะเป็นการอนุรักษ์ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและผล กระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นการเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เกษตรกรรม สวนเกษตร วนเกษตร สวนสมุนไพร ฟาร์มปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง เพื่อชื่นชมความสวยงาม ความสำเร็จ และเพลิดเพลินในสวนเกษตร ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ใหม่ บนพื้นฐานความรับผิดชอบ มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่แห่งนั้น

           โดยในแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแต่ละแห่งจะมีกิจกรรมที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวหลาย ๆ กิจกรรม แล้วแต่สภาพจุดท่องเที่ยวเชิงเกษตรแต่ละแห่ง เช่น 1. ประเภทนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมระยะสั้น ได้แก่ การเข้าชมสวนเกษตร โดยนักท่องเที่ยวอาจเก็บผลผลิตในสวนหรือซื้อผลผลิตโดยเลือกเก็บได้ และทำกิจกรรมพื้นบ้านระยะสั้น     ร่วมกับชาวบ้าน เช่น
ขี่ควาย นั่งเกวียน และอื่น ๆ 2. ประเภทให้นักท่องเที่ยวพักแรมในหมู่บ้าน การให้นักท่องเที่ยวพักแรมในหมู่บ้านเพื่อศึกษา และสัมผัสกับชีวิตของชาวชนบทเกษตรโดยนักท่องเที่ยวจะได้รับบริการที่อบอุ่น ปลอดภัย สะดวกและสะอาด

          3. ประเภทอบรมให้ความรู้เกษตรแผนใหม่และความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน การทำการเกษตรแผนใหม่ เช่น การปลูกและการดูแลรักษา การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร อาจมีการให้ใบประกาศนียบัตรด้วย การเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น การศึกษาแมลงที่มีประโยชน์ พืชผักพื้นเมืองที่กินได้ การทำน้ำตาลมะพร้าวและน้ำตาลโตนด ฯลฯ 4. ประเภทจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านของเกษตร กร  ของใช้และของที่ระลึกต่าง ๆ ผลไม้สด ดอกไม้สด เมล็ดพันธุ์พืชที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวซื้อไปปลูก 5. ประเภทให้ลู่ทางธุรกิจ ช่วงที่ธุรกิจอื่น ๆ ประสบปัญหาจากธุรกิจตกต่ำ ให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อหาลู่ทางในการทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร เพราะเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนเร็ว การท่องเที่ยวในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยเอื้อประโยชน์ให้แก่เกษตรกรแล้วยังเป็นหนทางที่ช่วยภาคเอกชนที่รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอีกด้วย

             ด้วยการพัฒนาจากภาครัฐทำให้ชุมชนบ้านยายดา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแนวใหม่โดยในซึ่งปี 2560 นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร สามารถเรียนรู้และสัมผัสวิถีชุมชนเกษตรได้อย่างใกล้ชิดเพราะมีพื้นที่โดยรอบเป็นสวนผลไม้ นานาพันธุ์ มีทั้ง ทุเรียน เงาะมะปราง สละ ไฮไลท์เด็ด คือการเด็ดผลไม้จากต้นมาชิมได้ในราคาบุฟเฟ่ต์ แบบไม่จำกัดเวลา เช่น สวนยายดาเป็นสวนผลไม้แบบผสมผสาน ที่ส่วนใหญ่มีแค่ทุเรียน และเงาะเป็นหลัก

              ชุมชนบ้านยายดา ผู้เข้าชมสวนสามารถเดินชมวิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ชิมบุฟเฟ่ผลไม้นานาชนิด ที่สดอร่อยจากต้น ชิมกันได้อิ่มโดยไม่จำกัดเวลา หรือจะลองอาหารพื้นบ้านก็มีให้สั่งได้ เช่นเช่นหมูชะมวง น้ำพริกผักจิ้ม ใครต้องการซื้อของฝากก็มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจำหน่าย เช่นทุเรียนกวน ทุเรียนทอด กะปิระยองแท้ๆ

              ซึ่งบรรยากาศภายในสวนยายดา มีความร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีซุ้มและศาลาไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน หย่อนใจ อีกทั้งยังมีอาหารพื้นบ้าน เช่น แกงหมูชะมวงรสเด็ด และก่อนเดินทางกลับซื้อผลไม้สดๆ จากสวนยายดา ติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรือจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร เช่น ทุเรียนกวน ทุเรียนทอดกรอบ เป็นต้นการเดินทางมายังสวนยายดา สามารถเดินทางมาได้ตลอดทั้งปี เพื่อศึกษาวิถีชีวิตแบบเกษตร หรือวิธีการบำรุงและแต่งกิ่งไม้ผล แต่หากต้องการมาให้ตรงกับช่วงที่มีการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ควรเดินทางมาในช่วง กลางเดือนเมษายนจนถึง ปลายเดือนมิถุนายนของทุกปี เพราะเป็นช่วง ฤดูผลไม้ที่ออกเต็มที่

                 โดยป้าชื่นมีสวนที่ดูแลทั้งหมด 5 แปลงมีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ โดยมีแปลงสวนไม้ผลที่ปลถกทุเรียน และมังคุด 2 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 15 ไร่ มีแปลงที่ปลูกยางพาราอีกประมาณ 16 ไร่ แปลงที่ดินว่างเปล่าอีกประมาณ 2 ไร่ และแปลงสุดท้ายมีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ เป็นสวนที่ได้รับ มรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษปลูกไม้ผลแบบผสมผสานทั่วไป โดยปลูกทุเรียนและเงาะเป็นหลัก และเป็นแปลงเดียวที่นำมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เนื่องจากเป็นสวนที่อยู่ภายในบริเวณบ้านพัก มีความสะดวกในการจัดการและการบริการนักท่องเที่ยว ป้าชื่นเป็นประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรยายดาพัฒนา เป็นการรวมกลุ่มกันของแม่บ้านบ้านยายดา เมื่อปี พ.ศ. 2539 และใช้สถานที่บ้านป้าชื่นเป็นที่ตั้งกลุ่มในการทำกิจกรรม การตั้งกลุ่มครั้งนี้เป็นการพัฒนาอาชีพ เพื่อสนับสนุนให้ชาวบ้านมีอาชีพเสริมและเพื่อเพิ่มรายได้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการนำเอาผลผลิตในท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยมีทุเรียนทอดกรอบ และทุกเรียนกวนเป็นสินค้าหลัก ปัจจุบันมีสินค้าหลากหลายชนิด มีสินค้าจำหน่ายตลอดทั้งปี เช่น แกงหมูชะมวงบรรจุซอง

                 บริเวณสวนยายดามีให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการกางเต็นท์นอนในสวน ชมธรรมชาติ และมีห้องพักแบบโฮมสเตย์อีกด้วย โดยโฮมเสตย์สวนยายดาเปิดบริการนักท่องเที่ยวที่ ต้องการมาสัมผัสวิถีชีวิตชาว บ้าน มีสมาชิกทั้งหมด 5 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวได้ 50 คน มี่ที่กางเต็นท์ภายในสวน (บริการเอง) ราคาหลังละ 100 บาท ราคาค่าบริการบ้านพัก 400บาท ต่อคน พร้อมอาหารและผลไม้ มีบริการรถรับ-ส่ง เวลาเปิดให้เข้าชมสวน 8.00 – 17.00 น. ตั้งแต่ช่วง เดือนเม.ย. – มิ.ย. ค่าเข้าสวน ผลไม้ผู้ใหญ่ 450 บาท/คนและเด็ก 200 บาท/คน เด็ก ความสูง 110 เซนติเมตร-130เซนติเมตร 200 บาท เด็กเล็กเข้าฟรี (ราคาอาจเปลี่ยนไปในแต่ละปี)

                 สำหรับใครที่อยากจะลองอาหารพื้นบ้านที่หาไม่ได้จากไหนก็มีให้สั่งได้ เช่น หมูชะมวง น้ำพริกผักจิ้ม ที่ชิมแล้วจะติดใจ ส่วนกิจกรรมที่เสริมความรู้ก็มีหลายโซน ทั้งการทำปุ๋ยหมัก เตาเผาถ่าน น้ำส้มควันไม้และการปลูกต้นอ่อนทานตะวัน แวะหิ้วของฝากติดมือกับผลิตภัณฑ์แปรรูปฝีมือชาวบ้าน อย่างทุเรียนทอด กะปิ และสบู่สมุนไพรก็มีให้เลือกอุดหนุนกัน นอกจากนี้ยังมีโฮมสเตย์สวนยายดา ราคาคนละ 400 บาท ที่เกิดจากการรวมกลุ่มของสมาชิกจำนวน 5 หลัง รองรับได้ 50 คน และจุดกางเต็นท์ให้นอนพัก หลังละ 100 บาท พร้อมอาหารเช้าและรถรับส่ง การเดินทางเริ่มจากถนนสุขุมวิท วิ่งเลยจากตัวเมืองระยองไปทางแกลง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...