ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ย้อนกลับ
ชาวมหากาฬชนกทม.ขู่ศึกบางระจันไม่ย้ายชุมชน
29 มี.ค. 2559

          เจ้าหน้าที่เขตพระนครได้นำป้ายประกาศแจ้งการรื้อย้ายชุมชนป้อมมหากาฬไปปิดประกาศบริเวณป้อมมหากาฬ ซึ่งตามป้ายประกาศดังกล่าวระบุให้ผู้อาศัยอยู่ภายในบริเวณป้อมมหากาฬรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 30 เมษายน 2559 ตามพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน พ.ศ.2535 พร้อมทั้งเตรียมตั้งโต๊ะช่วยเหลือจัดหาที่อยู่อาศัยในวันที่ 19 เมษายน 2559 โดยป้ายประกาศดังกล่าวได้นำมาปิดไว้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2559

          ขณะที่นายพีระพล เหมรัตน์ รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ กทม.เคยจ่ายเงินชดเชยให้ชาวชุมชนแล้ว และเอาไปปล่อยทิ้งที่การเคหะแห่งชาติมีนบุรีและหนองจอก ซึ่งไกลจากชุมชนเดิมมาก ซึ่งคำสั่งที่มาปิดประกาศนี้ชาวชุมชนไม่มีใครเตรียมตัวที่จะรื้อย้าย และไม่ขอคุยเรื่องกฎหมาย อยากให้คุยเรื่องสิทธิมนุษยชนมากกว่า และหากเจ้าหน้าที่เข้ามารื้อย้ายจริงอาจเกิดศึกบางระจันขึ้นก็ได้ ทั้งนี้ชุมชนป้อมมหากาฬอยู่ระหว่างทำหนังสือขอเข้าพบ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เพื่อยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ คือ1.ขอคืนเงินชดเชยทั้งหมด โดยผ่อนชำระเป็นงวด และขอแบ่งพื้นที่อยู่อาศัยร่วมกันด้วยการเช่าพื้นที่ระยะยาว 2.ขอเป็นเวรยามดูแลพื้นที่ 3.ดูแลรักษาสวนสาธารณะแห่งนี้ 4.ให้ชุมชนป้อมมหากาฬเป็นแหล่งท่องเที่ยว และ5.เป็นชุมชนตัวอย่างที่ทำงานควบคู่กับหน่วยงานรัฐ

          อย่างไรก็ตามผู้บริหารกทม.ได้ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าไว้ว่า ชาวชุมชนจะไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ภายในกำหนดแน่ โดยกทม.ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมประสานงานตำรวจและทหารเข้าดำเนินการแล้ว ส่วนแผนพัฒนาพื้นที่ภายหลังรื้อย้ายชุมชนออกจากพื้นที่แล้วนั้น กทม.มีแผนจัดทำพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ ขณะนี้มีการออกแบบเบื้องต้นแล้ว โดยขั้นตอนแรกหลังการรื้อย้ายชุมชนคือ ประสานกับกรมศิลปากรเพื่อให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบอาคารเก่าแก่ในชุมชนว่าอาคารหลังใดเข้าข่ายเป็นอาคารเก่าแก่ทรงคุณค่าสมควรอนุรักษ์ไว้บ้างเพื่อยกเว้นการรื้อถอน ส่วนเรื่องต้นไม้ใหญ่นั้นจะคงไว้ไม่ตัดทิ้ง เนื่องจากจะจัดทำพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...