ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
เทพไท กล่าวถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึเนในการประชุมส.ส
06 ธ.ค. 2562

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้มาตรา 44 ว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนในการทำงานระหว่างวิปทั้งสองฝ่าย ที่จะต้องหารือและปรับปรุงรูปแบบการทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเช่นนี้อีกในอนาคต
อยากจะเสนอให้วิปฝ่ายรัฐบาลได้ปรับปรุงการทำงานใน2ส่วน คือ 1.ปรับปรุงตัวบุคคลและทีมงานในวิปรัฐบาล 2.ปรับปรุงวิธีการทำงานและวิธีคิดของวิปรัฐบาลใหม่
ผมอยากจะเสนอความคิดเห็นต่อวิธีการทำงานของวิปรัฐบาล ในเรื่องการลงมติในญัตติ หรือร่างกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล ต้องแยกแยะญัตติหรือกฎหมายออกเป็น2ส่วน 1.ถ้าเป็นกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล และเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน กฎหมายความมั่นคง หรือกฎหมายอื่นใดที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบทางการเมืองหากแพ้โหวตในที่ประชุมสภา กรณีนี้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทุกคนต้องลงคะแนนตามมติวิปรัฐบาลโดยเคร่งครัด 2.ถ้าหากเป็นญัตติหรือกฎหมายที่เสนอโดย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็ควรเป็นเอกสิทธิ์ของผู้เสนอญัตติ หรือผู้เสนอกฎหมายว่าจะลงคะแนนอย่างไร และวิปรัฐบาลจะต้องตรวจสอบและกลั่นกรองญัตติ หรือกฎหมายทุกฉบับก่อนเสนอ หรือก่อนการบรรจุวาระการประชุมของประธานสภาผู้แทนราษฎร  และต้องกำหนดมติ หรือกำหนดธงไว้ล่วงหน้า เพื่อแจ้งให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลได้ทราบว่าวิปรัฐบาลมีความเห็น หรือมติต่อญัตตินั้นๆอย่างไร ถ้าหากมติของวิปรัฐบาลไม่เห็นด้วย ก็ควรแนะนำให้เจ้าของญัตติได้ขอถอนญัตติ หรือถอนร่างกฏหมายฉบับนั้น ออกจากวาระก่อนเข้าวาระการพิจารณาของสภา หรือส่งสัญญาณห้ามส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอภิปรายสนับสนุนญัตติ หรือร่างกฏหมายฉบับนั้นๆด้วย มิฉะนั้น อาจจะทำให้ ส.ส.ผู้เสนอญัตติหรือ ส.ส.คนอื่นๆที่อภิปรายสนับสนุนญัตตินั้นๆ เกิดความเสียหายทางการเมืองได้ ถ้าลงมติสวนทางกับมติของวิปฝ่ายรัฐบาล
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซำ้รอย ผมอยากขอความชัดเจนในการทำงานระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับรัฐบาล ต้องแบ่งแยกชัดเจน ควรให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของกันและกัน อย่างน้อยก็ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีของคนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...