กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน 4 จังหวัดภาคเหนือ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นห่วงและติดตามสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งการเน้นย้ำให้เร่งระดมสรรพกำลังเพื่อควบคุมและดับไฟ และขอให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ในการนี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันด้วยตนเอง พร้อมทั้ง ได้สั่งการให้ดำเนินการเรื่องไฟป่าและหมอกควันอย่างเร่งด่วน ให้มีการติดตามสถานการณ์และรายงานการดำเนินการทุกวัน เน้นการนำเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังและสร้างการรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และพะเยา เฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยผลการดำเนินงานการจัดการหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 4 จังหวัด ในภาพรวม จุดความร้อนมีแนวโน้มลดลง ดังนี้ จังหวัดเชียงใหม่ มีจุดความร้อนลดลง เหลือ 129 จุด ปัญหาที่พบคือ ไฟคืน ต้องใช้น้ำในการดับไฟจึงจะดับได้สนิท มีการปรับการทำงานเชิงรุกในพื้นที่ ปัญหาเรื่องมวลชนลดน้อยลง จังหวัดเชียงราย มีจุดความร้อนและ PM 2.5 ลดลงเล็กน้อย มีการกำหนดพื้นที่เสี่ยงในอนาคต 3 จุด ได้แก่ ป่าดอยตุง อำเภอแม่จัน มีหมู่บ้านที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 7 หมู่บ้าน ป่าดอยจระเข้ อำเภอแม่จัน มี 14 หมู่บ้าน และ ป่าดอยอินทรีย์ อำเภอเมือง มี 6 หมู่บ้าน สำหรับการดำเนินงานจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำในพื้นที่เสี่ยง ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอรายชื่อเจ้าหน้าที่จำนวน 100 นาย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะมีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมร่วมกับฝ่ายปกครองก่อนลงพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีแนวโน้มลดลง มีการกำหนดพื้นที่หมู่บ้านเสี่ยงภัยในอนาคต 30 หมู่บ้าน ใน 3 อำเภอ ขณะนี้ได้เร่งออกคำสั่งกำหนดรายชื่อเจ้าหน้าที่ประจำในพื้นที่ จังหวัดพะเยา พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเจ้าหน้าที่เข้าประจำในพื้นที่เสี่ยง สำหรับการดำเนินงานในพื้นที่ มีจุดลาดตระเวน 177 จุด ร่วมกันกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีการพ่นน้ำเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ก็ได้กำชับให้ทุกพื้นที่ปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างเคร่งครัด โดยจะมีการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันเป็นประจำทุกวันในเวลา 10.30 น. และให้สรุปรายงานของแต่ละจังหวัดภายในเวลา 11.00 น. เป็นประจำทุกวัน เน้นย้ำเรื่องการประชาสัมพันธ์ การสร้างความรู้ความเข้าใจ ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันความสับสน การปฏิบัติงานในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ต้องเป็นไปตามแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่ หน้ากาก ถุงมือ อาหาร เวชภัณฑ์ ยุทธภัณฑ์ ต้องพร้อม ซึ่งทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความพร้อมในทุกๆ ด้านอยู่แล้ว สำหรับในส่วนที่เอกชนและประชาชนบริจาคเข้ามาสนับสนุน ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนได้ตระหนักถึงภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ สำหรับการดำเนินงานเรื่องหมอกควัน ข้ามแดน กรมควบคุมมลพิษได้มีการประสานงานทางเลขาธิการอาเซียน และมีการประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับสาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมาเพื่อดำเนินการร่วมกัน ทั้งนี้ การตรวจวัดคุณภาพอากาศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่ม กระจายไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ ให้มากที่สุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดประชุมทางไกลผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน 4 จังหวัดภาคเหนือ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นห่วงและติดตามสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งการเน้นย้ำให้เร่งระดมสรรพกำลังเพื่อควบคุมและดับไฟ และขอให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ในการนี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันด้วยตนเอง พร้อมทั้ง ได้สั่งการให้ดำเนินการเรื่องไฟป่าและหมอกควันอย่างเร่งด่วน ให้มีการติดตามสถานการณ์และรายงานการดำเนินการทุกวัน เน้นการนำเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังและสร้างการรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย และพะเยา เฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยผลการดำเนินงานการจัดการหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ 4 จังหวัด ในภาพรวม จุดความร้อนมีแนวโน้มลดลง ดังนี้ จังหวัดเชียงใหม่ มีจุดความร้อนลดลง เหลือ 129 จุด ปัญหาที่พบคือ ไฟคืน ต้องใช้น้ำในการดับไฟจึงจะดับได้สนิท มีการปรับการทำงานเชิงรุกในพื้นที่ ปัญหาเรื่องมวลชนลดน้อยลง จังหวัดเชียงราย มีจุดความร้อนและ PM 2.5 ลดลงเล็กน้อย มีการกำหนดพื้นที่เสี่ยงในอนาคต 3 จุด ได้แก่ ป่าดอยตุง อำเภอแม่จัน มีหมู่บ้านที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 7 หมู่บ้าน ป่าดอยจระเข้ อำเภอแม่จัน มี 14 หมู่บ้าน และ ป่าดอยอินทรีย์ อำเภอเมือง มี 6 หมู่บ้าน สำหรับการดำเนินงานจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำในพื้นที่เสี่ยง ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอรายชื่อเจ้าหน้าที่จำนวน 100 นาย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะมีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมร่วมกับฝ่ายปกครองก่อนลงพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีแนวโน้มลดลง มีการกำหนดพื้นที่หมู่บ้านเสี่ยงภัยในอนาคต 30 หมู่บ้าน ใน 3 อำเภอ ขณะนี้ได้เร่งออกคำสั่งกำหนดรายชื่อเจ้าหน้าที่ประจำในพื้นที่ จังหวัดพะเยา พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเจ้าหน้าที่เข้าประจำในพื้นที่เสี่ยง สำหรับการดำเนินงานในพื้นที่ มีจุดลาดตระเวน 177 จุด ร่วมกันกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีการพ่นน้ำเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ก็ได้กำชับให้ทุกพื้นที่ปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างเคร่งครัด โดยจะมีการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันเป็นประจำทุกวันในเวลา 10.30 น. และให้สรุปรายงานของแต่ละจังหวัดภายในเวลา 11.00 น. เป็นประจำทุกวัน เน้นย้ำเรื่องการประชาสัมพันธ์ การสร้างความรู้ความเข้าใจ ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันความสับสน การปฏิบัติงานในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ต้องเป็นไปตามแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่ หน้ากาก ถุงมือ อาหาร เวชภัณฑ์ ยุทธภัณฑ์ ต้องพร้อม ซึ่งทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความพร้อมในทุกๆ ด้านอยู่แล้ว สำหรับในส่วนที่เอกชนและประชาชนบริจาคเข้ามาสนับสนุน ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนได้ตระหนักถึงภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ สำหรับการดำเนินงานเรื่องหมอกควัน ข้ามแดน กรมควบคุมมลพิษได้มีการประสานงานทางเลขาธิการอาเซียน และมีการประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับสาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมาเพื่อดำเนินการร่วมกัน ทั้งนี้ การตรวจวัดคุณภาพอากาศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่ม กระจายไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ ให้มากที่สุด