กรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจ การจัดเก็บค่าตั๋วเข้าอุทยาน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเจ้าไหม โดยระบุว่า ทางสำนักฯได้รับการร้องเรียนมายาวนานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานหาดเจ้าไหม ไม่มีการมาดำเนินการจัดเก็บค่าเข้าใช้บริการที่บริเวณถ้ำมรกตแห่งนี้มายาวนานแล้ว ประกอบกับรายงานการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานหาดเจ้าไหมซึ่งมีพื้นที่จัดเก็บหลายแห่ง แต่รายได้ต่อวันต่ำกว่าอุทยานอื่นๆ มาก โดยได้เพียงหลักหมื่นบาทต่อวัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวภายในเขตอุทยานหาดเจ้าไหมมีหลายจุด รวมทั้งถ้ำมรกตแห่งนี้ เป็นพื้นที่เป้าหมายของนักท่องเที่ยว ทั้งจากที่ลงเรือฝั่ง จ.ตรัง และเดินทางมาทางเรือจากจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจากกระบี่ พังงา ภูเก็ต และ จ.สตูล เข้ามาท่องเที่ยว แต่ผลการจัดเก็บรายได้ต่ำมากเพียงแค่วันละหลักหมื่นบาท หรือบางเดือนแค่ 2-3 หมื่นบาท แต่ไม่เคยเกิน 4 หมื่นบาท
ขณะที่อุทยานอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงรายได้ต่อวันนับแสนบาท จึงมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความจริง วันนี้จึงเดินทางมาตรวจสอบด้วยตนเอง ก็พบความจริงว่าทั้งภาคเช้าและภาคบ่ายที่เข้ามาสุ่มตรวจ ไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานหาดเจ้าไหมเข้ามาจัดเก็บค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด
วันที่ 5 ธันวาคม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ตนมอบให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 5 นครศรีธรรมราช ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้ทาง นายพริษฐ์ นราสฤษฏ์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ย้ายเข้าไปช่วยราชการที่ สบอ.5 ก่อน โดยให้ทางสำนักเลือกบุคคลที่เหมาะสม เข้าไปรักษาการแทนก่อน
ด้านนายชัยวัฒน์กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใคร เรื่องนี้จึงให้ทางสำนักเป็นผู้พิจารณาให้เลือกผู้ที่เหมาะสมเข้าไปทำหน้าที่แทน เบื้องต้นทราบว่าให้ทางผู้อำนวยการส่วนอุทยานของ สบอ.5 เข้าไปทำหน้าที่แทน