นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงดีอีฝ่ายข้าราชการประจำ เปิดเผยถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 22 – 28 ธันวาคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,199,440 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 88 ข้อความโดยพบว่าข่าวปลอมที่ประชาชนให้ความสนใจสูงเป็นอับดับหนึ่ง คือเรื่องคลอรีนในน้ำประปาเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งเมื่อถูกความร้อน รองลงมาเป็นข่าวปลอมด้านสุขภาพ ดื่มน้ำอัดลมเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง และข่าวหลอกลงทุนออนไลน์ King Power ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามลำดับ จึงขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อย่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 77 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 11 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 55 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 40 เรื่อง ทั้งยังได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคง ภายในกระเทศ จำนวน 37 เรื่อง อาทิ รัฐบาล ร่วมกับสคร. ส่ง SMS แจ้งประชาชนที่ถูกรางวัลเลขท้ายเบอร์มงคล ประจำปี 2566 ติดต่อรับรางวัล เป็นต้น กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 6 เรื่อง อาทิ ยาลดกรด ทำให้เป็นกรดไหลย้อนเรื้อรัง เป็นต้น
กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 1 เรื่อง กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 11 เรื่อง อาทิ ธนาคารอิสลาม ชี้แจงปม ทำโฉนดที่ดินลูกค้าหาย ทำให้ไม่สามารถขายเพื่อชำระหนี้ได้ทันเวลา เป็นต้น แบ่งเป็นเรื่องการหลอกลวงธุรกรรมทางการเงิน จำนวน 7 เรื่อง นายเวทางค์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์ล่าสุดนี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวด้านกลุ่มนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ รองลงมาเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และกลุ่มเศรษฐกิจ ตามลำดับ โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชน มากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง คลอรีนในน้ำประปาเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งเมื่อถูกความร้อน อันดับที่ 2 : เรื่อง ดื่มน้ำอัดลมเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง อันดับที่ 3 : เรื่อง King Power ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดกองทุนระยะสั้น 1,000 บาท กำไร 12-30% ต่อวันอันดับที่ 4 : เรื่อง มีบัญชีไลน์ให้ข้อมูลด้านการลงทุน โดยมีหน่วยงานหรือผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุนไทย อันดับที่ 5 : เรื่อง ผู้ที่กระเพาะมีปัญหา กินของเย็น ผลไม้ให้น้ำมาก อาการจะยิ่งรุนแรง ทำให้ใจสั่น และเต้นแรง อันดับที่ 6 : เรื่อง ครม. อนุมัติเพิ่มวันหยุดปีใหม่เป็น 5 วันติด 28 ธ.ค. 66-1 ม.ค. 67 อันดับที่ 7 : เรื่อง เพจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการออนไลน์จาก รพ.บำรุงราษฎร์ ชวนลงทุนผ่านไลน์ โดยมีการรับรองจาก ก.ล.ต. อันดับที่ 8 : เรื่อง กระทรวงดิจิทัลฯ เปิดรับแจ้งปัญหาออนไลน์ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการ ปัญหาออนไลน์ อันดับที่ 9 : เรื่อง ต้นฝ้ายกับแห้วหมู ต้มดื่มแก้ต่อมลูกหมากอักเสบ และต่อมลูกหมากโต อันดับที่ 10 : เรื่อง โควิด 19 ไม่ใช่ไวรัส แต่เกิดจากแบคทีเรียสัมผัสรังสี 5G