จากกรณี นายชณทัต ปัทะมะภูวดล อดีตผู้สมัคร สส.พระนครศรีอยุธยา เขต 3 ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา อ้างว่าถูก นายสำพราน หมั่นมาก รอง นายก อบต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แสดงตนเป็นผู้มีอิทธิพลข่มขู่ ไม่ให้เข้าร่วมถ่ายภาพ เพราะสวมเสื้อพรรคก้าวไกล
โดยเหตุเกิดขณะไปร่วมงานตามคำเชิญชวนของนายธนะโรจน์ ธนาชัยกุลไพศาล นายก อบต.พยอม เปิดศูนย์จุดบริการอำนวยความสะดวก 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2566 ต่อมานายชณทัตและนายธนะโรจน์ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลให้ช่วยเหลือ และเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.ทุ่งสองห้อง กรุงเทพมหานครฯ ว่าถูกชายฉกรรจ์คุกคาม หวั่นจะไม่ปลอดภัยต้องหอบครอบครัวหนีเข้ากรุงเทพฯ
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 2 ม.ค.2567 นายสำพราน หมั่นมาก รองนายก อบต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนเห็นว่านายชณทัตมาในนามของพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว จะไม่เป็นกลาง จึงไม่อยากให้เข้ามาถ่ายภาพ ถ้าวันนั้นมาหลายพรรคจะให้เข้ามาร่วมถ่ายภาพ ตนเข้าไปพูดคุยอธิบายแบบสุภาพ ไม่ได้มีการข่มขู่อะไร
นายสำพราน กล่าวต่อว่า ส่วนที่อ้างว่าตนพกอาวุธปืนข่มขู่ไม่เป็นความจริง ในกระเป๋าตนพกโทรศัพท์และกระเป๋าเงิน มีหลายคนที่เห็นและรับรู้ว่าตนไม่ได้ข่มขู่ และไม่ได้ไล่ให้ออกไปจากงาน ตามคลิปที่มีการเผยแพร่ออกไป ตนก็พูดปกติ ไม่ได้เสียงดังข่มขู่อะไร ไม่คิดว่าจะบานปลายถึงขนาดนี้ และที่บอกว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพล ยืนยันว่าตนมีแต่ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอดในระยะเวลา 2 ปี ที่มารับตำแหน่งรองนายก อบต. ไม่ได้มีอำนาจมีอิทธิพลอะไร ส่วนตัวประกอบอาชีพสุจริต
นายสำพราน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่ตนไม่อยากมาพูดอะไร เพราะตนทำงานที่เดียวกับนายกอบต. และนายชณทัตก็รู้จักกันดีเหมือนพี่น้อง ถ้าพูดกันไปมาจะทะเลาะกัน ทำงานร่วมกันไม่ได้ วันนี้ล่าสุด นายก อบต.พยอม ได้ออกหนังสือคำสั่ง ให้ตน พร้อมนายสุเทพ เภาพันธ์ รองนายก อบต.พยอม และนายวรพล ศิลปยวง เลขานุการ นายก อบต.พยอม พ้นจากตำแหน่งแล้ว
นายสำพราน กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ตนได้เจรจาพูดคุยกับนายชณทัต ส่วนรองนายก และเลขานายก อบต.ไมได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ทำไมต้องมาออกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งด้วย นายก อบต.กับตน ก็บริหารงานอบต.มาด้วยกันด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร
นายสำพราน กล่าวอีกว่า แม้ตนจะถูกให้พ้นจากตำแหน่งก็จะยังช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป เพราะตนมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้าน เห็นชาวบ้านที่มีปัญหามีความเดือดร้อนและสามารถช่วยเหลือแก้ปัญหาได้ มีความสุขมาก ส่วนที่มีการไปแจ้งความ ร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ตนพร้อมที่จะชี้แจ้งทุกกรณี
ด้านนายสุเทพ เภาพันธ์ รองนายก อบต.พยอม เปิดเผยว่า ทีมงานผู้บริหาร อบต.พะยอม ทั้งนายก อบต. รองนายก อบต. และเลขานุการ เราเป็นเพื่อนกัน เป็นทีมงานเดียวกัน ทำงานมาด้วยกัน เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนและเลขานุการไม่ได้เกี่ยวข้อง ตกใจและงงมากว่า ทำไมมีคำสั่งให้ตนและเลขานุการพ้นจากตำแหน่งด้วย
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าไม่เป็นธรรม พยายามโทรไปสอบถาม เพื่อขอทราบเหตุผล แต่นายก อบต. ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ คงจะต้องไปสอบถามด้วยตนเองเพื่อขอทราบเหตุผล อยากได้รับความเป็นธรรมในส่วนนี้ด้วย