น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากโรงงานอุตสาหกรรมหลังเกิดเหตุุสถานประกอบการพลุ จ.สุพรรณบุรี ระเบิด จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากว่า ได้สั่งการให้ นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวง เร่งสำรวจข้อมูลโรงงาน การจัดตั้งโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตามข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ระบุถึง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ กระทรวงแรงงาน ต้องรับผิดชอบในภารกิจของตัวเองให้ดีที่สุด
น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าวอีกว่า จากข้อมูลโรงงานพบว่าปัจจุบันมีสถานประกอบการที่เป็นโรงงานจำพวก 3 ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ลำดับที่ 48(4) ซึ่งทำการผลิตไม้ขีดไฟ วัตถุระเบิด หรือดอกไม้เพลิง มีจำนวน 8 ราย และมีสถานประกอบการที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จำหน่ายออกจากระบบ เนื่องจากไม่เป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน มีจำนวน 42ราย กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยรายที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดนั้นไม่อยู่ในฐานข้อมูลกลุ่มนี้ ทั้งนี้ สถานประกอบที่ไม่เป็นโรงงานดังกล่าวข้างต้น ปัจจุบัน อาจยังประกอบกิจการอยู่หรือเลิกกิจการไปแล้ว ดังนั้นต้องทำการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อีกครั้ง นอกจากนี้อาจมีรายใหม่เกิดขึ้นซึ่งไม่ปรากฏในฐานข้อมูลเดิมของกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย
น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าวว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำรวจโรงงาน เหมือง และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความเสี่ยงของการเกิดเหตุในลักษณะเดียวกัน หรือในรูปแบบอื่นๆ ที่อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำกับดูแล และให้ทำการทบทวนปรับปรุงข้อมูล และสำรวจเพิ่มเติมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนปรับปรุงมาตรการและแนวทางกำกับดูแลที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพให้ประชาชนเชื่อถือและไว้วางใจให้ได้