นายสิทธิศักดิ์ อุ่นใจ หรือ แซม อายุ 58 ปี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา (สท.) พร้อม นางสาวเบญจวรรณ ศิริยิ่ง หรือปุ๋ม อายุ 40 ปี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา (สท.) หลังทั้งสองเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. บางบัวทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายกิจก้อง อายุ 64 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา หลัง สท.แซม ถูกนายกกิจก้องตบในที่ประชุมสภา ส่วน สท.ปุ๋ม ถูกนายกคนเดียวกันพูดจาล่วงละเมิดทางเพศต่อหน้า สท. คนอื่นๆในที่ประชุมสภา ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียศักดิ์ศรี โดยยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุดไม่รับคำขอโทษอย่างแน่นอน
สท.แซม เผยว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมสภาสมัยสามัญ ครั้งที่ 1 โดยมีการยื่นญัตติการขอใช้เงินสะสมกว่า 20 ล้านบาท ของเทศบาลเมืองบางรักพัฒนาในที่ประชุมมี สท.จำนวน 18 คน เข้าประชุมโดยพร้อมเพียงกัน โดยมี สท.ฝ่ายบริหารของนายก 10 คน และฝ่ายค้านของพวกตน 8 คน มีการโต้แย้งกันตามปกติของฝ่ายค้าน และฝ่ายบริหารงาน ขณะที่ นายไพโรจน์ ทองเอี่ยม ทำหน้าที่ประธานสภาอยู่นั้น ตนได้โต้แย้งถึงญัตติ การขอใช้เงินสะสม กว่า 20 ล้านบาทเนื่องจากไม่มีแบบแปลนหรือเอกสารมาแสดงให้สมาชิกสภาในห้องประชุมดู ทำให้ดูไม่เกิดความโปร่งใส สร้างความไม่พอใจให้กับนายกิจก้อง ก่อนลุกขึ้นยืนตะโกนด่าชี้หน้าตนแล้วตรงเข้ามา ใช้มือตบเข้าที่ใบหน้า โชคดีตนยกแขนขึ้นป้องกันไว้ทัน ก่อนที่จะมีเพื่อนสมาชิกสภาเทศบาลในห้องประชุมพากันเข้ามาห้ามปรามไว้ แต่นายกกิจก้องก็ยังตะโกนด่าตนด้วยคำหยาบคาย ตนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.บางบัวทอง ในข้อหาทำร้ายร่างกายให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจและยืนยันจะเอาเรื่องนายกให้ถึงที่สุดไม่ขอรอมชอม หรือรับของขอโทษแต่อย่างใด ขณะที่ สท.ปุ๋ม เปิดเผยว่า ก่อนที่ สท.แซม จะถูกนายกทำร้ายนั้น ตนได้ถูกนายกกิจก้อง พูดจาพาดพิงในที่ประชุมหาว่าตนเอง และเพื่อนสมาชิก สท.ไปดูงานโครงการผังเมืองที่ประเทศญี่ปุ่นโดยไม่เกิดประโยชน์ทั้งๆที่นายกกิจก้องเองเป็นคนเซ็นให้ตนเองและเพื่อน สท.เดินทางไปดูงานได้ โดยที่ผ่านมาตนถูกนายกพูดจาข่มขู่ตลอดจึงขอใช้สิทธิ์ ขอพูดในฐานะที่ถูก พาดพิงในที่ประชุม ปรากฎว่านายกิจก้อง นายกเทศมนตรี ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งชี้หน้าตนและพูดว่า “ข่มขู่หรือข่มขืน” ตนจึงท้วงไปว่า “ข่มขู่” แต่นายกกิจก้องพูดสวนมาทันทีว่า “แล้วมันเสียวไหมล่ะ” ตนรู้สึกอับอายที่ถูกนายกกิจก้องพูดจาหยาบคายส่อเสียดอนาจารทำให้ได้รับความเสียหายในห้องประชุมต่อหน้าเพื่อนๆ สมาชิก สท.ทั้ง 18 คน จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ขอยอมความหรือรับคำขอโทษด้วยเช่นกัน