สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันไฟป่าและคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงวิกฤติและเลวร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยสภาพตัวเมืองถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบตลอดทั้งวัน และติดต่อนานนับสัปดาห์แล้ว ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการเกิดไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISDA) ระบุว่าในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 2 เม.ย.67 พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งสิ้น 2,387 จุด อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 561 จุด ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 499 จุด, อันดับ 3 ลำปาง 242 จุด, อันดับ 4 ตาก 207 จุด และอันดับ 5 อุตรดิตถ์ 152 จุด
ส่วนรายงานจุดความร้อนรอบเช้าประจำวันที่ 3 เม.ย.67 พบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 411 จุด มากที่สุดในพื้นที่อำเภอเชียงดาว 83 จุด รองลงไป ได้แก่ แม่แตง 57 จุด, สะเมิง 48 จุด, จอมทอง 39 จุด, แม่แจ่ม 33 จุด, ไชยปราการ 26 จุด, พร้าว 26 จุด, ฝาง 24 จุด, กัลยาณิวัฒนา 14 จุด, อมก๋อย 13 จุด, แม่ออน 9 จุด, แม่อาย 9 จุด, แม่ริม 9 จุด, ดอยสะเก็ด 6 จุด, แม่วาง 5 จุด, ฮอด 5 จุด, สันทราย 2 จุด, เวียงแหง 2 จุด และดอยเต่า 1 จุด
ขณะที่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งอยู่ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ อยู่ที่ 108.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 111.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 106 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 85.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 198.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 84.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 234, 237, 232, 211, 324 และ 210 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ทั้งนี้ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้านเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 219 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 169 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรง โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวอยู่ในอันดับที่ 1 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ขณะที่อันดับ 2 ได้แก่ เดลี ประเทศอินเดีย ดัชนีคุณภาพอากาศ 180 US AQI และอันดับ 3 กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล 177 US AQI
นอกจากนี้ เว็บไซต์ https://www.ntaqhi.info/ ที่สร้างขึ้นเพื่อรายงานดัชนีคุณภาพอากาศเพื่อสุขภาพในพื้นที่ทั้งแบบเวลาจริงทุกชั่วโมง และแบบค่าเฉลี่ยใน 24 ชม.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ดอยสะเก็ด และจังหวัดเชียงใหม่ รายงานผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 จากสถานีที่ติดตั้งไว้ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบค่ารายนาทีเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. สูงถึง 260 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยต่อเนื่องอยู่ในระดับดังกล่าวนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงแล้ว ซึ่งคุณภาพอากาศดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย