เมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 มีรายงานข่าวน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับ 76 จังหวัดและ กทม. ดำเนินการคัดเลือกอาหารถิ่นประจำจังหวัด ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste) ประจำปี 2567 โดยแต่ละจังหวัด มีคณะกรรมการประจำจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้แทนที่เป็นประธาน เพื่อดำเนินการคัดเลือก รวมทั้งเปิดให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดร่วมโหวตเมนูที่ควรได้รับการคัดเลือกในจังหวัดตนเองพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-9 ส.ค.67 ที่ผ่านมานั้น
รมว.วธ กล่าวว่า บัดนี้ สวธ.ได้ผลการคัดเลือก 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปี 2567 แล้ว โดยมีเมนูอาหารที่ให้ประชาชนร่วมโหวตทั่วประเทศ 563 รายการ แบ่งเป็นเมนูอาหารคาว 234 รายการ เมนูอาหารหวาน 184 รายการ เมนูอาหารว่าง 143 รายการ และเมนูอาหารอื่น 2 รายการ
ทั้งนี้ ประชาชนมีส่วนร่วมในการโหวตคัดเลือกผ่านสื่อท้องถิ่น สื่อออนไลน์ต่างๆ ทุกช่องทาง ซึ่งแต่ละเมนูมีความพิเศษและสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของแต่ละจังหวัดอย่างชัดเจน เช่น เมนูอาหารหวานจากจังหวัดปราจีนบุรี “ขนมหน่อไม้” ได้รับความสนใจและมีการโหวตสูงสุดถึง 22,945 คะแนน
รองลงมาได้แก่ เมนูอาหารหวาน “ขนมถังแตกมอญ” จากจังหวัดกาญจนบุรี 4,660 คะแนน และ เมนูอาหารคาว “ปลายอก ข้าวบอก” จากจังหวัดกระบี่ 4,259 คะแนน
นอกจากนี้ ยังมีเมนูที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ “ขนมเหนียวสูตรโบราณ” จากกทม., “กาละแมรวงข้าวเม็ดบัว” จากจังหวัดปทุมธานี “ยำไก่ผีปู่ย่า” จากจังหวัดสุโขทัย, “แกงอีเหี่ยว”จากจังหวัดเพชรบูรณ์ และ "แกงคั่วหนามพุงดอหมูย่าง" จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
“ข้าวมัน แกงตอแมะห์ปลา” จากจังหวัดสตูล “น้ำพริกหมู (โคราช)” จากจังหวัดนครราชสีมา, “นมเนียล” จากจังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น
โครงการนี้ ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว เพื่อรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอาหารไทยและวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับอาหารถิ่นของไทย พร้อมทั้งต่อยอดภูมิปัญญาด้านสมุนไพรและสรรพคุณทางเลือกที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดและเครือข่ายวัฒนธรรมทั่วประเทศ ในการคัดสรรเมนูอาหารถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และมีรสชาติที่โดดเด่น ซึ่งมีหลายเมนูที่หลายคนอาจยังไม่เคยลิ้มลอง อีกทั้งส่งเสริมและพัฒนาอาหารถิ่นไทย ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ตลอดจนยกระดับอัตลักษณ์อาหารไทยในเวทีสากลด้วย
รมว.วธ. กล่าวว่า กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์อาหารถิ่นไทย แต่ยังเป็นการส่งเสริมศักยภาพของเครือข่ายวัฒนธรรมในการบริหารจัดการงานวัฒนธรรมอย่างยอดเยี่ยม และเชิญชวนให้ประชาชนทั่วประเทศได้ตามรอยและลิ้มรสอาหารถิ่นที่มีความพิเศษจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อเมนูอาหารถิ่น พร้อมร้านจำหน่ายได้ที่ เว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม / Facebook กรมส่งเสริมวัฒนธรรม https://www.culture.go.th/culture_th/ewt_news.php?nid=7843&filename=index (ประกาศรายชื่อ 1 จังหวัด 1 เมนู ฯ) และ Facebook สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ
โอกาสนี้ วธ.ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง ทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนทุกจังหวัด ที่ร่วมดำเนินการคัดเลือก และร่วมโหวตเมนูอาหารถิ่นประจำจังหวัดในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ สวธ. จะได้นำเมนูอาหารถิ่นทั่วประเทศที่ได้รับการคัดเลือกปีนี้ มาสาธิตและให้ลองชิมพร้อมกัน ณ กรุงเทพมหานคร ช่วงเดือนกันยายนนี้ รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป