นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ดีอี และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ได้เปิดแผนขับเคลื่อนการพัฒนากำลังคนดิจิทัลของประเทศ ภายใต้แนวคิด ซีด ไทยแลนด์ : ฟอร์ม ซีด โกรธ (SEED THAILAND: from seed to GROWTH) เพื่อ เร่งเตรียมพร้อมเมล็ดพันธุ์คนรุ่นใหม่ให้พร้อมเติบโตเป็นกำลังคนดิจิทัลที่สำคัญของประเทศ ใน 3 กลุ่มสำคัญ ได้แก่ กลุ่มเยาวชน กลุ่มอาชีพอนาคต และผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ นอกจากนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
“กระทรวงดีอี โดย ดีป้า ได้ดำเนินกิจกรรม ดิจิเน็กซ์ บาย ซีด ไทยแลนด์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายภาครัฐให้สามารถตอบโจทย์ของประชาชนและผู้ประกอบการอย่างตรงจุด และได้นำประเด็นสำคัญจากการหารือในแต่ละภูมิภาคมาตกผลึกกับแผนงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลจนเกิดเป็นนโยบาย 4 ดี ได้แก่ 1.ดิจิทัล แซนด์บ็อกซ์ ฮับ : การจัดตั้งศูนย์กลางดิจิทัลของแต่ละภูมิภาค 2.ดิจิทัล ซิติเซ่น: การดึงดูด ดิจิทัล ทาเล้นท์ จากทั่วโลก 3. ดิจิทัล ออพเพอทูนิที ฟันด์ : การจัดตั้งกองทุนส่งเสริมผู้ประกอบการและเทคโนโลยีดิจิทัล และ 4.ดิจิทัล คาเรียร์ ฟอร์ เดอะ ฟีเจอร์ : การพัฒนาทักษะอาชีพแห่งอนาคต โดยหลังจากนี้ จะจัดเวิร์ค ช้อป และโฟกัส กรุ๊ป เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย 4ดี อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”
ด้านนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า ซีด ไทยแลนด์ เป็นโครงการที่ดำเนินงานมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 66 ตั้งแต่การเพิ่มทักษะดิจิทัลผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ ต่อยอดมาถึงกิจกรรม ดิจิเน็กซ์ บาย ซีด ไทยแลนด์ ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้เข้าสู่วงการจริง และได้รับประสบการณ์ตรงจากการร่วมหารือกับบุคลากรสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ นอกจากนี้ยังได้จัดทำ ดิจิทัล สคิล โรดแม็ป หรือแนวทางการพัฒนาทักษะดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนไทยทุกคนมีโอกาสในการยกระดับทักษะสำคัญที่สอดคล้องกับโลกในยุคปัจจุบัน
และตรงกับความต้องการแรงงานดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมกลุ่มแรงงานให้มีทักษะที่จำเป็น และยังมีการพัฒนา อี เลิร์นนิ่ง แพลตฟอร์ม อย่าง www.HACKaTHAILAND.com ที่เปิดให้ผู้ที่สนใจยกระดับทักษะดิจิทัลในแต่ละด้านสามารถเข้าเรียนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย