นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นำเครือข่ายผู้บริโภคกรุงเทพฯ และเครือข่ายเพจรถเมล์ไทย ที่รวมตัวกันไป “ยื่นข้อเสนอต่อกรมการขนส่งทางบก ขอให้ทบทวนการปฏิรูปเส้นทางรถรถเมล์โดยสารในกรุงเทพฯ” หลังประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์ได้รับความเดือดร้อน โดยมีนายปิยะ โยมา ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก เป็นผู้มารับหนังสือ โดยนางนฤมล กล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการใช้บริการรถเมล์โดยสาร เพราะสับสนจากการเปลี่ยนเลขสายกับเปลี่ยนเส้นทาง รถไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่มีเส้นทางที่ถูกตัดและไม่มีรถวิ่ง รถที่ให้บริการมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ความแตกต่างเรื่องราคาค่าโดยสาร เช่น รถเมย์สาย 18 รถเดิม ขสมก. ราคา 8 บาทตลอดสาย เมื่อเปลี่ยนให้เอกชนวิ่ง ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 15,20 และ 25 บาท ถือเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชน / ที่สำคัญขาดการประชาสัมพันธ์ ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้น้อยมาก และช่องทางการติดต่อประชาชนยาก /และด้านคุณภาพบริการและมาตรฐานความปลอดภัย ยังพบว่า รถเมล์ยังมีปัญหา ส่วนคุณภาพการให้บริการของพนักงานยังมีปัญหาอยู่
จึงมีข้อเสนอ 13 ข้อ เช่น เสนอให้ยกเลิกเลขสายรถเมล์ เช่น 1-14E โดยใช้สายเดิม คือ สาย 129 และใช้สัญลักษณ์ติดป้ายสีเหลือง “ทางด่วน” เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน / เสนอให้ทบทวนข้อกำหนด 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ เสนอให้มีมาตรการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการจัดหารถเมล์โดยสารให้เพียงพอ และเสนอให้กำกับให้รัฐวิสาหกิจและเอกชน กำหนดราคาค่าโดยสารเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศ
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปเส้นทางรถเมล์กรุงเทพฯ ครั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน ดังนั้น จะไม่มีเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ใช้บริการว่าได้รับผลกระทบอย่างไร จึงอยากขอให้กรมการขนส่งทางบก ทบทวนการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์กรุงเทพ และเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้าไปมีบทบาทในการแสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่แท้จริงว่าการปฏิรูปเส้นทางรถในกรุงเทพเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคจริงหรือไม่
นางนฤมล กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะติดตามผลของการมายื่นข้อเสนอขอให้ทบทวนการการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์กรุงเทพอย่างต่อเนื่อง โดยให้ระยะเวลาพิจารณาไม่เกิน 3 เดือน เพราะครั้งนี้ได้เสนอเสียงสะท้อนจากประชาชนผู้ใช้บริการหลังมีการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์กรุงเทพแล้ว โดยในระยะต่อไป หากการดำเนินงานไม่คืบหน้า ก็จะไปยื่นเรื่องเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก จะนำเสนอดังกล่าวไปพิจารณาต่อไป ยืนยันว่า จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และจะเพิ่มการกำกับดูแลเรื่องการบริการให้เป็นไปตามเงื่อนไข โดยย้ำว่า เป้าหมายหลัก คือ การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน