ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ข่าวเด่น / ไฮไลท์ ย้อนกลับ
คคบ. สั่งฟ้องผู้ประกอบการละเมิดสิทธิกว่า 15 ล้านบาท
18 ก.ย. 2567

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 13.30 น. นายชาตรี  สุวรรณนิน ปฏิบัติหน้าที่ประธานในการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) ครั้งที่ 5/2567  ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
จากการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) เดินหน้าบังคับใช้กฎหมาย
อย่างเข้มข้น สั่งฟ้องผู้ประกอบการกว่า 39 ราย ฐานละเมิดสิทธิผู้บริโภค คดีใหญ่รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ สินค้าและบริการทั่วไป รายละเอียด ดังนี้
ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ 10 ราย
1. ซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ต่อมาพบว่าก่อสร้างไม่ตรงตามที่ขออนุญาต   ผู้บริโภคซื้อได้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ต่อมาเข้าอยู่พบว่าบ้านชำรุดหลายจุด จึงแจ้งบริษัทฯ ให้ดำเนินการแก้ไข
แต่บริษัทฯ แก้ไขเพียงบางส่วน และจากการตรวจสอบการก่อสร้างไม่ตรงตามที่ขออนุญาต จึงมีความประสงค์ให้บริษัทฯ รับซื้อบ้านคืน และเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 19 รายการ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับ
ให้คืนเงิน 2,438,000 บาท และรับโอนกรรมสิทธิ์บ้านรวมถึงค่าธรรมเนียมอื่น ๆ และชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 16,088 บาท พร้อมดอกเบี้ย
2. ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ผู้บริโภคซื้อห้องชุดในราคา 6,658,000 บาท ชำระเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงิน 1,466,000 บาท ต่อมาบริษัทฯ ก่อสร้างห้องชุดไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย จึงมีความประสงค์ขอให้บริษัทฯ
คืนเงินที่ได้ชำระไปแล้วทั้งหมด มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 1,466,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
3. ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ผู้บริโภคซื้อห้องชุดในราคา 6,658,000 บาท ชำระเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินดาวน์ รวมเป็นเงินจำนวน 145,000 บาท
แต่ผู้บริโภคไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จึงมีความประสงค์ให้บริษัทฯ คืนเงินดาวน์จำนวน
140,000 บาท (หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถ้วน) แต่บริษัทฯ ปฏิเสธการคืนเงินทั้งหมด จึงเป็นการละเมิดสิทธิ
ของผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 140,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
4. ทำสัญญาจองออกแบบและสร้างบ้าน และจ้างก่อสร้างบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาจองออกแบบและสร้างบ้านและจ้างก่อสร้างบ้านรวมวัสดุก่อสร้างและค่าแรง ในราคา 1,700,000 บาท
ได้ชำระเงินจอง 108,888 บาท แต่ภายหลังผู้บริโภคไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จึงแจ้งบริษัทฯ เพื่อขอเงินคืนจำนวน 80,000 บาท เมื่อบริษัทฯ ไม่คืนเงิน การกระทำของบริษัทฯ จึงเป็นการละเมิดสิทธิ
ของผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
5. ว่าจ้างปรับปรุงตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ผู้บริโภคทำสัญญาว่าจ้างในราคา 675,000 บาท ต่อมาขอให้มาซ่อมแซมความชำรุดบกพร่องตามระยะเวลาการรับประกัน แต่ผู้รับจ้างปฏิเสธไม่แก้ไข จึงขอให้รับผิดชอบเป็นเงินจำนวน 9,353 บาท และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว เมื่อไม่รับผิดชอบ
จึงเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน  9,353 บาท พร้อมดอกเบี้ย
6. ทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านเดี่ยว ผู้บริโภคทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านเดี่ยว
ในราคา 1,500,000 บาท ปัจจุบันล่วงเลยกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว แต่บ้านยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์
และบริษัทฯ ก็มิได้เข้าดำเนินการก่อสร้างแต่อย่างใด จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 1,673,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
7. กำแพงรั้วโครงการหมู่บ้านทรุดตัว ทำให้กำแพงบ้านผู้บริโภคเกิดความเสียหาย
ผู้บริโภคได้รับความเสียหายที่รั้วกำแพงโครงการทรุดตัวและพังทลายลง แต่บริษัทฯ ปฏิเสธว่าไม่ต้องรับผิดตามสัญญารับประกันรั้ว ซึ่งข้อปฏิเสธดังกล่าวไม่อยู่ในข้อยกเว้นของสัญญารับประกันรั้ว จึงถือว่าบริษัทฯ และนิติบุคคลย่อมผูกพันกันตามสัญญารับประกัน เมื่อบริษัทฯ ปฏิเสธไม่ซ่อมแซมรั้วของโครงการด้วยเหตุอื่นซึ่งไม่ใช่เหตุอันเป็นข้อยกเว้นความรับผิดอยู่ในระยะเวลาตามสัญญารับประกันรั้ว ส่งผลให้บ้านของผู้บริโภค รวมถึงรั้วแบ่งแปลงที่ดินของผู้บริโภคได้รับความเสียหายด้วย บริษัทฯ จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา และละเมิดสิทธิ
ของนิติบุคคลและพวกผู้บริโภค มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้แก้ไขซ่อมแซมรั้วกำแพง ชดใช้ค่าว่าจ้างวิศวกรจำนวน 25,000 บาท ชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินจำนวน 2,673,422.72 บาท แก้ไขซ่อมแซม
ความเสียหายบ้านของผู้บริโภคทั้ง 6 ราย หากไม่สามารถดำเนินการซ่อมแซมได้ ให้บริษัทฯ ชดใช้ค่าเสียหาย
ในการซ่อมแซม พร้อมทั้งชดใช้ค่าว่าจ้างวิศวกรตรวจสอบ 5,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
8. ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดชำระเงินจอง เงินผ่อนดาวน์ รวมเป็นเงินทั้งหมดจำนวน 28,300 บาท บริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาและริบเงินทั้งหมด ผู้บริโภคมีความประสงค์ขอให้บริษัทฯ คืนเงินทั้งหมด จึงขอความเป็นธรรม
9. สัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ผู้บริโภคทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด ในราคา 1,560,000 บาท ชำระเงินจอง เงินทำสัญญาและเงินดาวน์ 1 งวด จำนวน 3,900 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 43,900 บาท ต่อมาบริษัทฯ ได้จำหน่ายโครงการให้กับอีกบริษัท ทำให้ผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจ
จึงมีความประสงค์ขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืนจำนวน 43,900 บาท แต่บริษัทฯ ปฏิเสธ จึงขอความ
เป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 43,900 บาท พร้อมดอกเบี้ย
10. ทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านพักอาศัย ราคา 12,500,000 บาท โดยแบ่งชำระ
ค่างวดงานจำนวน 10 งวด ต่อมาผู้บริโภคมีการตกลงว่าจ้างก่อสร้างรั้วกำแพงหน้าบ้านเพิ่มเติมอีกในราคา 600,000 บาท และได้ชำระเงินไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 5,050,000 บาท แต่บริษัทฯ ก่อสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรม ทำให้ได้รับความเสียหาย และขอให้บริษัทฯ คืนเงินส่วนของงวดงานที่ยังไม่ได้
มีการดำเนินการ พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 3,235,380 บาท จึงขอความเป็นธรรม
มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้ชดใช้ค่าเสียหายตามใบประเมิน 3,094,130 บาท ชดใช้ค่าปรับล่าช้าตามสัญญา จำนวน 341,250 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป จำนวน 29 ราย
1. สั่งซื้อครีมกันแดด แต่ได้ไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้บริโภคได้สั่งซื้อครีมกันแดดจำนวน 1 ชิ้น
ราคา 604 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน Tiktok ซึ่งไม่ตรงตามที่ผู้บริโภคสั่งซื้อ จึงติดต่อผู้ขาย แต่ไม่สามารถติดต่อได้
มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 604 บาท พร้อมดอกเบี้ย
2. สั่งซื้อกระเป๋า ไม่ได้ตามที่สั่ง ผู้บริโภคได้สั่งซื้อกระเป๋า ราคา 1,580 บาท
ผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นตรวจสอบพบว่า สินค้าที่ผู้บริโภคได้รับเป็นอีกยี่ห้อหนึ่ง จำนวน 1 ใบ ซึ่งไม่ตรงตามที่ผู้บริโภคสั่งซื้อ จึงติดต่อผู้ขาย แต่ไม่สามารถติดต่อได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 1,580 บาท พร้อมดอกเบี้ย
3. สั่งซื้อรองเท้า ไม่ตรงตามที่สั่ง สั่งซื้อรองเท้ายี่ห้อ Scholl จำนวน 2 คู่ (โปรโมชันซื้อ
1 แถม 1) ราคา 1,398 บาท ผ่านเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ เมื่อได้รับสินค้าดังกล่าว หลังจากนั้นตรวจสอบพบว่าสินค้าที่ได้รับเป็นรองเท้าแตะธรรมดา จำนวน 2 คู่ ซึ่งไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ จึงติดต่อผู้ขายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 1,398 บาท พร้อมดอกเบี้ย
4. สั่งซื้อชุดเดรส ได้ไม่ตรงตามที่สั่ง  ผู้บริโภคสั่งซื้อชุดเดรส สีม่วง ราคา 199 บาท
ค่าขนส่งจำนวน 50 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 249 บาท กับเฟซบุ๊ก เมื่อได้รับสินค้าดังกล่าวหลังจากนั้นตรวจสอบพบว่า สินค้าที่ได้รับเป็นชุดสีขาว ซึ่งไม่ตรงตามแบบที่สั่งซื้อ จึงติดต่อผู้ขาย แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 249 บาท พร้อมดอกเบี้ย
5. สั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ ผู้บริโภคได้สั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ จำนวน 23 ชิ้น รวมเป็นจำนวนเงิน 87,500 บาท ผ่านเฟซบุ๊กได้ชำระเงินให้แก่ผู้ขายแล้ว เป็นจำนวนเงิน 43,750 บาท หลังจากนั้น ผู้บริโภคได้รับสินค้าเพียงบางส่วน รวมจำนวน 4 ชิ้น ได้แก่ เก้าอี้ 3 ตัว ไม่มีเบาะนั่ง ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ และเก้าอี้กระเช้าสภาพปกติ 1 ตัว ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ผู้บริโภคได้สั่งซื้อ ผู้บริโภคจึงมีความประสงค์ให้ผู้ขายคืนเงินให้แก่ผู้บริโภคทั้งหมด พร้อมค่าเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 43,750 บาท และผู้บริโภคมีสิทธิยึดหน่วงสินค้าที่ได้รับ ได้แก่ เก้าอี้โซฟา จำนวน 3 ตัว และเก้าอี้กระเช้า จำนวน 1 ตัว ไว้จนกว่าผู้บริโภคจะได้รับเงินคืน พร้อมดอกเบี้ย
6. จองเช่าห้องชุด ผู้บริโภคได้ทำการจองเช่าห้องชุดในอัตราค่าเช่าเดือนละ 24,500 บาท และตกลงทำสัญญา ชำระเงินให้แก่บริษัทฯ จำนวน 24,500 บาท หลังจากนั้น ผู้บริโภคมีความจำเป็น
ต้องย้ายไปพักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ จึงไม่สามารถเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ ได้ และแจ้งเหตุจำเป็น
ให้พนักงานขายทราบแล้ว จึงมีความประสงค์ยกเลิกสัญญา ขอเงินคืนทั้งหมด แต่บริษัทฯ ไม่คืนเงินให้
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวยังไม่เกิดเป็นสัญญาเช่าห้องชุดระหว่างผู้บริโภคกับบริษัทฯ แต่อย่างใด บริษัทฯ จึงไม่มีสิทธิ
ยึดเงินจำนวนดังกล่าวไว้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 24,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย
7. สั่งซื้อกระเป๋า ได้ไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้บริโภคสั่งซื้อกระเป๋าจำนวน 1 ใบ ราคา 1,490 บาท แบบเรียกเก็บเงินปลายทาง หลังจากนั้นตรวจสอบพบว่ากระเป๋ายี่ห้อดังกล่าวซึ่งไม่ใช่ของแท้ จึงติดต่อผู้ขาย แต่ไม่สามารถติดต่อได้ มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบังคับให้คืนเงิน 1,490 บาท พร้อมดอกเบี้ย
8. จองเช่าห้องชุด แต่เข้าอยู่ไม่ได้จึงขอคืนเงิน  ผู้บริโภคจองเช่าห้องชุดและได้ชำระเงินมัดจำให้จำนวน 6,000 บาท ต่อมาผู้ให้เช่าแจ้งว่า ผู้เช่ารายเดิมยังไม่ย้ายออกทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้ จึงมีความประสงค์ให้คืนเงินทั้งหมด แต่ผู้ให้เช่าไม่คืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้
คืนเงิน 6,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
9. สั่งซื้ออะไหล่รถยนต์ใช้แล้ว ใช้การไม่ได้  ผู้บริโภคสั่งซื้ออะไหล่รถยนต์ใช้แล้ว
6 รายการ ผ่านเฟซบุ๊ก ชำระเงิน 13,500 บาท ภายหลังอะไหล่บางรายการไม่สามารถใช้การได้ จึงขอส่งคืน แต่ไม่ได้รับเงิน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 7,580 บาท พร้อมดอกเบี้ย
10. จ้างพนักงานเลี้ยงเด็ก แล้วลาออก ไม่ส่งมาทดแทน  ผู้บริโภคทำสัญญาจ้างพี่เลี้ยงเด็กกับเนิร์สซิ่งแห่งหนึ่ง เพื่อจัดหาพนักงานมาดูแลบุตร ชำระเงินมัดจำค่าแรกเข้าและค่าเดินทาง รวมเป็นเงิน 34,600 บาท ต่อมาพนักงานลาออก จึงชำระเงินเพิ่ม 20,000 บาท แต่ไม่จัดส่งพนักงานมาดูแล  มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
11. ซื้อเฟอร์นิเจอร์ และไม่ได้รับ  ผู้บริโภคซื้อเฟอร์นิเจอร์ราคา 20,000 บาท ชำระ
มัดจำ 10,000 บาท และอีก 6,000 บาท รวมเป็นเงินมัดจำ 16,000 บาท ตกลงกำหนดส่งมอบเป็นเวลาที่แน่นอนแล้ว ปรากฏว่า เมื่อถึงกำหนดส่งมอบ มิได้จัดส่งสินค้าให้และไม่สามารถติดต่อได้ กรณีดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย ต่อมาผู้บริโภคได้รับเงินจำนวน 10,000 บาท จึงขอให้ชดใช้เงินในส่วนที่เหลือ
มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้ชดใช้เงิน 6,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
12. สั่งซื้อกระเป๋า ไม่ได้ตามที่สั่ง ผู้บริโภคสั่งซื้อกระเป๋า ราคา 1,540 บาท ทางเฟซบุ๊ก ชำระเงินไปแล้ว ปรากฏว่าไม่จัดส่งสินค้าให้แต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย
มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,540 บาท พร้อมดอกเบี้ย

13. ซื้อและติดตั้งผลิตภัณฑ์ป้องกันสนิม ผู้บริโภคซื้อและติดตั้งผลิตภัณฑ์ป้องกันสนิมโดยใช้ประจุไฟ เพื่อนำไปใช้กับรถยนต์ ราคา 15,800 บาท รับประกันการป้องกันสนิม 10 ปี ภายหลังใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประมาณ 3 ปี ปรากฏว่า เกิดสนิมบริเวณคิ้วกันสาดของประตูรถยนต์ฝั่งขวาด้านคนขับ จึงแจ้งปัญหา
และได้ส่งช่างมาตรวจสอบ พบว่ากล่องประจุไฟฟ้าและสายไฟติดตั้งกล่องป้องกันสนิมทำงานได้ปกติ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 15,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย
14. ได้รับสินค้า แต่ไม่ได้สั่ง ผู้บริโภคได้รับสินค้าแบบเรียกเก็บเงิน จำนวน 198 บาท ภายหลังตรวจสอบว่าพบว่าไม่ได้สั่งสินค้าดังกล่าว แต่มีการเก็บเงินปลายทาง กรณีดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 198 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
15. ใช้บริการขนส่ง แต่ไม่ได้รับของ ผู้บริโภคใช้บริการขนส่งพัสดุกับบริษัทแห่งหนึ่ง
เพื่อส่งของใช้ส่วนตัวหลายรายการ รวมมูลค่า 7,000 บาท ภายหลังตรวจสอบพบสถานะพัสดุนำจ่ายสำเร็จและมีการลงลายมือชื่อรับพัสดุดังกล่าวแล้ว แต่ผู้บริโภคมิได้เป็นผู้รับพัสดุแต่อย่างใด กรณีดังกล่าวทำให้
ได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 7,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย

16. ซื้อรถยนต์ใช้แล้ว แต่จดทะเบียนโอนไม่ได้ ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ใช้แล้ว ทำสัญญาเช่าซื้อภายหลังชำระค่าเช่าซื้อครบ ปรากฏว่า ไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนโอนเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ เนื่องจากสำนักงานขนส่งจังหวัดยโสธรแจ้งว่า รถยนต์คันดังกล่าวมีการดัดแปลงสภาพ ทั้งหมายเลขคัสซี ตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์ เป็นเหตุให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงิน 250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
17. ติดตั้งลิฟต์ในบ้าน แต่ไม่เสร็จ ผู้บริโภคติดตั้งลิฟต์ในบ้านราคา 800,000 บาท ชำระเงินไปแล้ว 720,000 บาท ต่อมาดำเนินการติดตั้งแต่ไม่แล้วเสร็จ และเพิกเฉยไม่มาดำเนินการให้แล้วเสร็จ
กรณีดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทและกรรมการ
ผู้มีอำนาจ เพื่อบังคับให้ร่วมกันหรือแทนกันคืนเงิน 399,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
18. สั่งซื้อเครื่องซักผ้า ภายหลังเกิดชำรุด ผู้บริโภคสั่งซื้อเครื่องซักผ้า ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok ราคา 6,790 บาท มีการรับประกันคุณภาพเป็นเวลา 1 ปี ภายหลังใช้งาน เครื่องชำรุดบกพร่อง
ผู้บริโภคจึงส่งเครื่องเคลม แต่ไม่ดำเนินการแก้ไขแต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม
มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทเพื่อบังคับคืนค่าสินค้า 6,790 บาท และชดใช้ค่าเสียหายอีก 4,320 บาท
รวมเป็นเงิน 11,110 บาท พร้อมดอกเบี้ย
19. สั่งที่นอนพร้อมเตียง ถึงกำหนด ไม่ส่งมอบ ผู้บริโภคสั่งซื้อที่นอนพร้อมเตียงขนาด
6 ฟุต จำนวน 2 ชุด ราคา 80,000 บาท ชำระเงินครบถ้วนแล้ว ปรากฏว่า ถึงกำหนดส่งมอบแล้ว แต่ไม่
ส่งมอบสินค้าให้ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม  มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่ง
แก่บริษัทฯ และกรรมการผู้มีอำนาจ เพื่อบังคับให้ร่วมกันหรือแทนกันคืนเงิน 81,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
20. ว่าจ้างติดตั้งลิฟต์ ดำเนินการไม่เสร็จ วัดบางยี่ขัน โดยเจ้าอาวาส ว่าจ้างติดตั้งลิฟต์
ที่ศาลาปฏิบัติศาสนกิจ เพื่อใช้กิจการภายในวัด ราคา 370,000 บาท ปรากฏว่าดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามที่ตกลงกัน รวมถึงขนาดของลิฟต์ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ได้ติดต่อให้แก้ไข แต่เพิกเฉย ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ และกรรมการผู้มีอำนาจ เพื่อบังคับ
ให้ร่วมกันหรือแทนกันคืนเงิน 370,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
21. สั่งซื้อเก้าอี้นวดไฟฟ้า ถึงกำหนดไม่จัดส่งให้ ผู้บริโภคสั่งซื้อเก้าอี้นวดไฟฟ้า ราคา 59,000 บาท ตกลงกันนำเก้าอี้นวดไฟฟ้ารุ่นเก่าแลกเปลี่ยนชำระเงินมัดจำ 1,000 บาท กำหนดรับสินค้าภายใน 7 ทำการ เมื่อถึงกำหนดนัดผู้ถูกร้องไม่ได้จัดส่งเก้าอี้นวดไฟฟ้าให้แก่ผู้บริโภคแต่อย่างใด ได้ติดตาม
ทวงถาม แต่เพิกเฉย จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ ให้คืนเงิน 1,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ย
22. สั่งซื้อทุเรียน แล้วไม่ได้รับ ผู้บริโภคสั่งซื้อทุเรียนหมอนทอง จำนวน 1 กิโลกรัม
และได้รับแถมอีก 1 กิโลกรัม  จำนวน 799 บาท ปรากฏว่าผู้บริโภคไม่ได้รับสินค้า และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ จึงขอความเป็นธรรม  มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ ให้คืนเงิน 799 บาท พร้อมดอกเบี้ย
23. ซื้อรายการนำเที่ยว แล้วขอยกเลิก ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากสำนักงานทะเบียนธุรกิจ
นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรณีนักท่องเที่ยวร้องเรียนบริษัทฯ แห่งหนึ่ง จำนวน 112 ราย เพื่อเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีกำหนดเดินทางล่วงหน้าที่ชัดเจนและไม่มีการกำหนด ต่อมามีคำสั่ง
นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เป็นเหตุให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวสิ้นสุดลง อีกทั้งไม่มีเงินหลักประกันที่วางไว้กับนายทะเบียน ซึ่งกรรมการผู้มีอำนาจ
ลงนามผูกพันบริษัทฯ  ถูกจับกุมเพื่อดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน พวกผู้บริโภคจึงไม่มีความมั่นใจว่า
บริษัทฯ จะให้บริการตามสัญญาได้ จึงมีความประสงค์ขอคืนเงินที่ได้ชำระไว้ทั้งหมด  มติที่ประชุม ดำเนิน
คดีแพ่งบริษัทฯ กรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้น เพื่อบังคับให้ร่วมกันหรือแทนกันคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย
24. ซื้อคอร์สเสริมความงาม ขอคืนเงิน ผู้บริโภคจำนวน 2 ราย รายแรกซื้อคอร์สเสริมความงาม ซึ่งถูกชักจูงโดยพนักงานขายของคลินิกฯ ให้ทำสัญญาโดยมิได้สมัครใจ ใช้ถ้อยคำที่กระทบกระเทือนจิตใจและทำให้หวาดกลัว จึงต้องทำสัญญาและชำระเงินจำนวน 30,000 บาท ขาดอิสระเสรีภาพในการเลือกหรือตัดสินใจในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ รวมทั้งพนักงานขายมิได้ให้เสรีภาพในการอ่านและทำความเข้าใจในสัญญา จึงมีความประสงค์ขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน จำนวน 30,000 บาท รายที่สอง
ซื้อคอร์ส จำนวน 7 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 28,000 บาท ได้ผ่อนชำระเงินค่าบริการครบถ้วนแล้ว เข้าใช้บริการ จำนวน 4 ครั้ง ต่อมาได้จองคิวเข้าใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันไลน์แต่คลินิกฯ แจ้งว่า ปิดให้บริการ จึงมีความประสงค์ขอเงินในส่วนที่ผู้บริโภคยังไม่ได้ใช้บริการจำนวน 3 ครั้ง คืน จำนวน 12,000 บาท มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ เพื่อบังคับให้คืนเงิน แก่ผู้บริโภครายแรก จำนวน 30,000 บาท และรายที่สอง จำนวน 12,000 บาท รวมเป็นเงิน 42,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
25. ซื้อรายการนำเที่ยว แต่จัดให้ไม่ได้  สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค 5 ราย เกี่ยวกับบริษัทนำเที่ยวที่ไม่สามารถจัดทริปญี่ปุ่นตามที่ตกลงไว้ ทั้งยังพบว่าบริษัทไม่ได้ดำเนินการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมตามที่ควรจะเป็น ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับบริการตามที่ชำระเงินไป  มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ และกรรมการผู้มีอำนาจเพื่อบังคับให้คืนเงินให้ผู้บริโภคจำนวน 5 ราย พร้อมดอกเบี้ย
26. ซื้อโทรศัพท์มือถือ ได้ไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้บริโภคงซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone XS Max บอดี้ 13 ProMax ผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ชำระเงินแบบวิธีเรียกเก็บเงินปลายทาง
จำนวน 11,480 บาท เมื่อได้รับสินค้าและตรวจสอบ พบว่า สินค้าไม่ตรงตามที่สั่งซื้อและไม่สามารถ
ใช้งานได้ จึงติดต่อไปยังผู้ขายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมีความประสงค์ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน
มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ เพื่อบังคับให้คืน 11,480 บาท พร้อมดอกเบี้ย
27. ซื้อโทรศัพท์มือถือ คุณสมบัติไม่ตรงตามโฆษณา ผู้บริโภคสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ IPhone XS Max ยี่ห้อ Apple เครื่องไทย TH รับประกันร้าน 1 ปี จำนวน 1 รายการ ราคา 13,935 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน ชำระเงินโดยการโอน ต่อมาเมื่อได้รับสินค้าได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าสินค้ามีคุณสมบัติไม่เป็น
ไปตามที่โฆษณา กล่าวคือ สินค้าผ่านการใช้งานมาแล้วและสีของหน้าจอผิดเพี้ยน ไม่เป็นไปตามที่ร้านค้า
แจ้งว่าเป็นสินค้ามือ 1 จึงมีความประสงค์ขอให้รับผิดชอบในการเปลี่ยนสินค้า มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ บังคับให้คืน 13,935 บาท พร้อมดอกเบี้ย
28. ซื้อพระเครื่อง ไม่ตรงตามที่สั่ง ผู้บริโภคสั่งซื้อพระเครื่องสมเด็จ รุ่นแผ่นดินไหว หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง จำนวน 1 องค์ กับ Facebook ราคา 2,500 บาท เมื่อตรวจสอบพัสดุปรากฏว่าได้รับสินค้าไม่ตรงตามรุ่นที่ซื้อ จึงต้องการขอเงินคืน แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้จึงขอความเป็นธรรม มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ เพื่อบังคับให้คืนเงิน 2,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย
29. สั่งซื้อกระเป๋า ได้ไม่ตรง ผู้บริโภคสั่งซื้อกระเป๋า ยี่ห้อ Coach แบบคล้องมือ 2 ซิป
ไซส์ L ลายอักษรตัว C สีน้ำตาล มือ 2 จำนวน 1 ใบ ราคา 1,300 บาท กับ Facebook เมื่อตรวจสอบพัสดุปรากฏว่าได้รับกระเป๋า ยี่ห้อ Kipling สีน้ำตาล มือ 2 จำนวน 1 ใบ ซึ่งได้รับสินค้าไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ
จึงขอเงินคืน มติที่ประชุม ดำเนินคดีแพ่งบริษัทฯ เพื่อบังคับให้คืนเงิน 1,300 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จากการประชุมได้มีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ (10 ราย) และดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป (29 ราย) โดยได้มีการดำเนินคดีแพ่งแก่
ผู้ประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค รวมจำนวน 39 ราย เพื่อให้คืนเงินแก่ผู้บริโภค เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 15,048,256.72 บาท (สิบห้าล้านสี่หมื่นแปดพันสองร้อยห้าสิบหกบาทเจ็ดสิบสองสตางค์)
พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย และเสนอเรื่องต่อศาลเพื่อสั่งให้บริษัทดังกล่าว รวมถึงผู้มีอำนาจลงนามจ่ายค่าเสียหายเพื่อการลงโทษเพิ่มขึ้นจากจำนวนค่าเสียหายที่แท้จริงที่ศาลกำหนดตามที่เห็นสมควร

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...