(16 ต.ค.67) ณ สำนักสงฆ์หนองอ้อ สมาคมชาวอีสานพัทยา นำโดย นายสุครีพ กระจาย นายกสมาคม จัดงานบุญเดือนสิบเอ็ดออกพรรษา เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้คงอยู่ โดยมีนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และจุดธูปเทียนบวงสรวงเครื่องกวนข้าวทิพย์ พระมหาภูชิชญ์ ติสสโร หัวหน้าสำนักสงฆ์หนองอ้อ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายบรรจง บัณฑูรย์ประยุกต์ รองประธานสภาเมืองพัทยา, นายนคร ผลลูกอินทร์ รองประธานสภา อบจ.ชลบุรี สมาชิกสภาเมืองพัทยา และพี่น้องชาวไทย-อิสาน เข้าร่วม
จากนั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ อนุโมทนาคาถา โดยพราหมณ์ อาจารย์ ธี ธีรเดช วงพีระสกุล ทำพิธีพราหมณ์ และเริ่มพิธีกวนข้าวทิพย์ ด้วยเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์จำนวน 9 คน ประจำหม้อกวนข้าวทิพย์ ทั้ง 2 หมอ และเทวัสดุอุปกรณ์ลงหม้อ โดยมีประสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา และประชาชนทั่วไปร่วมกวนข้าวทิพย์ โดยใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง จึงจะแล้วเสร็จ พร้อมนำไปถวายพระและแจกจ่ายให้ญาติโยม ในวันออกพรรษา
พิธีกวนข้าวทิพย์สำนักสงฆ์หนองอ้อ ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ทั้งนี้ในวันออกพรรษา ชาวอีสานมีประเพณีอันเนื่องด้วยพระพุทธศาสนาอีกอย่างหนึ่ง ที่ผนวกเข้าเป็นประเพณีอันเดียวกันกับประเพณีออกพรรษา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) คือ กวนข้าวทิพย์ ซึ่งถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาช้านาน
จากความเชื่อในครั้งพุทธกาล ที่นางสุชาดาปรุงข้าวมธุปายาสถวายพระพุทธองค์ ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือกันว่าข้ามธุปายาสเป็นของทิพย์ของวิเศษ เมื่อทำขึ้นจึงเรียกว่า ข้าวทิพย์ ชาวบ้านจะพร้อมใจกันทำในเทศกาลออกพรรษา ถวายพระสงฆ์เพื่อเป็นการสักการบูชา ถ้าใครได้รับประทานจะเป็นสิริมงคลกับตนเอง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ แม้กระทั่งน้ำมันที่ได้จากการการกวนข้าวทิพย์ ก็ใช้ทารักษาบาดแผล แก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอกได้
การกวนข้าวทิพย์ต้องอาศัยแรงศรัทธา แรงใจ ความสามัคคีพร้อมเพรียงกันจากทุกคน จึงจะสำเร็จลงได้ มูลเหตุที่ทำในวันออกพรรษา เพื่อถวายเป็นเครื่องสักการบูชาและรับเสด็จพระพุทธองค์ที่เสด็จจากจำพรรษาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์