ประเพณีลอยกระทง ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่สมัยใด แต่เชื่อว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีจองเปรียง” หรือ “การลอยพระประทีป” และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียน เล่นไฟ ว่า เป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็น งานลอยกระทง
ปี 2567นี้ จังหวัดสุโขทัย กำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ณ.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมือง ในระหว่างวันที่ 8-17 พ.ย. 2567 ขานรับบทเพลง"วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริงวันลอยกระทง"ที่เราคุ้นหู การนำกระทงไปลอยน้ำ สืบทอดความเชื่อมาแต่ครั้งโบราณ เพื่อขอขมาพระแม่คงคา อธิษฐานขอให้เกิดแต่สิ่งดีดีในชีวิต เป็นมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่า ตกทอดมาแล้วกว่า 700 ปี แต่ครั้งกรุงสุโขทัย ดินแดนรุ่งอรุณแห่งความสุข เป็นปฐมราชธานี
นอกจากจะมีพิธีตักบาตรรับรุ่งอรุณแห่งความสุข ณ สะพานบุญ วัดตระพังทอง พิธีบวงสรวงบุรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ ณ.พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช การประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ พนมหมาก พนมดอกไม้ การประกวดโคมชักโคมแขวน ขบวนแห่นางนพมาศ และขบวนอัญเชิญไฟพระฤกษ์และพระประทีปพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ ที่พระราชทานมาลอยเป็นปฐมฤกษ์ ในสระน้ำโบราณหรือตระพังตระกวน ณ.วัดสระศรี
ในภาคกลางคืน ยังมีกิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ การแสดงประกอบแสงเสียง(Light &Sound) การแสดงตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พิธีเผาเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา การแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง การจำลองตลาดโบราณสมัยกรุงสุโขทัย(ตลาดแลกเบี้ย) และ การประกวดนางนพมาศอีกด้วย
นางสาวสรินรัตน์ เกิดสกุลรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ปีนี้เราสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้อย่างเต็มที่ถึง 10 วัน 10 คืน จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสัมผัสประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมของเมืองสุโขทัยอย่างแท้จริง เชื่อว่าจะประทับใจและตราตรึงในมนต์เสน่ห์ งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟของ จ.สุโขทัย ไปอีกนานแสนนาน